โฆษกบีจีเอฟ วอนไทยจ่ายกระแสไฟฟ้าตามปกติ หลังกระทบประชาชน นักเรียนในพื้นที่ แต่กลุ่มสแกมเมอร์ไม่เดือดร้อน เพราะใช้สัญญาณดาวเทียม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 เมษายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการบีจีเอฟ จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จังหวัดตาก พันโทหน่าย หม่องโซ โฆษกกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (บีจีเอฟ) กล่าวว่า ขอร้องให้รัฐบาลไทยเห็นใจประชาชนชาวเมียนมา นักศึกษา และนักเรียนในพื้นที่จังหวัดเมียวดี และพื้นที่ชายแดน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการใช้อินเทอร์เนต เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้

หลังจากที่รัฐบาลไทยได้ตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังฝั่งเมียนมาด้านจังหวัดเมียวดี ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2568 เพราะโรงเรียน สถานศึกษาในพื้นที่ชายแดนต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากประเทศไทย และจากมาตรการการตัดกระแสไฟฟ้าของไทยนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มสแกมเมอร์ออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีเงินมหาศาล สามารถซื้อสตาร์ลิงค์ (Starlink) หรือระบบดาวเทียมที่สามารถใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลกในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทางไทยไม่ให้ข้ามแดนไปฝั่งเมียนมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนักธุรกิจกลุ่มชาวจีนคอลเซ็นเตอร์ เพราะมีน้ำมันเชื้อเพลิงจากพื้นที่ชั้นในของเมียนมาส่งมา แต่ราคาแพงอยู่บ้าง ฉะนั้นขอให้รัฐบาลไทยพิจารณาทบทวนเรื่องการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ทางเมียนมาด้วย

...

พันโทหน่าย หม่องโซ กล่าวด้วยว่า ยอมรับว่ายังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่เมียวดี แต่ที่มีอยู่คือระดับผู้จัดการไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูง เพราะผู้บริหารระดับสูงไม่ไปพื้นที่ชายแดนอยู่แล้ว และยังมองว่า พื้นที่ชายแดนฝั่งเมียนมาเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ขณะที่ทางบีจีเอฟเองไม่ได้หยุดปฏิบัติการกวาดล้าง ยังคงดำเนินการต่อ และยังช่วยเหลือเหยื่อจากพื้นที่จีนเทาต่อไป อาจจะไม่ต่อเนื่องเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางของบุคคลต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่เมียวดีด้วยว่า จะประสานงานไปรับตัวอย่างไร

สำหรับวันนี้ (29 เม.ย. 68) ทางฝ่ายบีจีเอฟร่วมกับตรวจคนเข้าเมือง จ.เมียวดี ได้ส่งชาวต่างชาติ จำนวน 17 คน ให้กับทางเจ้าหน้าที่ทูตของบุคคลต่างชาติ 2 สัญชาติคือ ประเทศมาเลเซีย 16 คน แบ่งเป็นชาย 14 คน หญิง 2 คน และประเทศแอลจีเรีย เป็นชาย 1 คน