แม่ฮ่องสอน - นายอำเภอลุยตรวจสอบ พบเป็นกระสุนปืน ค.120 มม. ตกกลางไร่กะหล่ำชาวบ้านชายแดนแม่ฮ่องสอน หลังพม่ายังรบกะเหรี่ยงรุนแรงต่อเนื่อง เตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการออกไปในพื้นที่การเกษตร ห้ามเข้าไปอยู่ใกล้พื้นที่ดังกล่าวอย่างเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (11 มี.ค. 68) ว่าที่พันตรี ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยร้อยเอก ธนาทิพย์ กำแพงทิพย์ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 751 หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังนเรศวร ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้านนาป่าแปก หมู่ 4 ต.หมอกจำแป่ ผู้ใหญ่บ้านห้วยมะเขือส้ม ม.5 ต.หมอกจำแป ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.หมอกจำแป่ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดกระสุนปืน ค. จากการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ถูกยิงพลัดตกข้ามเข้ามาฝั่งไทย บริเวณสวนกะหล่ำปลี แนวชายแดนเขตพื้นที่บ้านห้วยมะเขือส้ม

จากการตรวจสอบพบชิ้นส่วนกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มม. ในลักษณะที่ใช้งานแล้ว ตกอยู่ในไร่กะหล่ำปลี พิกัด LB 833589 จำนวน 2 จุด ห่างกันประมาณ 20 เมตร ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณพื้นดิน ด้านข้างของโรงกะหล่ำปลี จุดที่ 2 บริเวณกลางไร่กะหล่ำปลี ในลักษณะที่ใช้งานแล้ว โดยผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายเล็กน้อย ระหว่างการตรวจสอบในที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายดังบริเวณแนวชายแดนอยู่เป็นระยะ

...

จากการวิเคราะห์โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่าเป็นชิ้นส่วนกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 120 มิลลิเมตร (ค.120 มม.) เชื่อได้ว่าเป็นของฝ่ายทหารเมียนมา โดยสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการยิงเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารบางอย่าง โดยทางฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ให้เตือนประชาชนห้ามเดินทางเข้าไปอยู่ใกล้ชายแดนพื้นที่ดังกล่าว อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต จากลูกระเบิดที่อาจพลัดหลงเข้ามาในฝั่งไทยอีก

สำหรับสถานการณ์การสู้รบพบว่า ตลอดทั้งวัน ได้มีเสียงการปะทะอย่างหนักในพื้นที่ตรงข้ามบ้านห้วยมะเขือส้มและบ้านนาป่าแปก คาดว่าทางฝ่ายทหารเมียนมาจะพยายามยึดคืนฐานที่มั่นเดิมของตัวเองจากฝ่ายกองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนีให้ได้ ทั้งนี้เมื่อเช้า ทางฝ่ายทหารเมียนมาได้ประกาศจะยึดฐานที่มั่น ต่อก่าโด่คืนจากกลุ่มกะเหรี่ยง ให้ได้ในเวลาไม่เกิน 11.00 น. แต่ปรากฏว่าไม่สามารถยึดได้ เนื่องจากทางฝ่ายกองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี ได้ใช้ยุทธวิธี ส่งกำลังเป็นชุดขนาดเล็ก กระจายไปตลบหลังและซุ่มโจมตีทหารเมียนมา รวมทั้งจัดชุดคอยสกัดทหารเมียนมาที่จะเข้ามายึดฐานที่มั่นดังกล่าวอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน