เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจค้น "อ.ปาย" แจงประเด็นสื่อโซเชียล หวั่นคนเข้าใจผิด ยันไม่มีต่างชาติเป็นเจ้าของกิจการ จับปรับคนสูบกัญชาในที่สาธารณะ 10 ราย

ช่วงค่ำวันที่ 22 ก.พ. 68 พล.ต.ต.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน พร้อม พ.ต.อ.สำเร็จ สามสีทอง ผกก.สภ.ปาย เจ้าหน้าที่ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจพื้นที่ท่องเที่ยวในอำเภอปาย ที่ถนนคนเดิน ร้านเช่ารถ เกสต์เฮ้าส์ ศาสนสถาน โดยมีการออกประชาสัมพันธ์ห้ามนักท่องเที่ยวก่อความเดือดร้อนรำคาญ สูบบุหรี่ สูบกัญชาในที่สาธารณะ ซึ่งหากมีการพบผู้กระทำผิดก็มีการจับปรับ รวมถึงการตรวจผู้ประกอบการทุกประเภท ตามที่เดินสำรวจในพื้นที่ถนนคนเดินปาย พบว่าเจ้าของเป็นคนไทยทั้งหมด ไม่มีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของกิจการใดๆ ตามประเด็นที่มีข่าวออกไปว่า เจ้าของส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยมีคนไทยเป็นนอมินี

พล.ต.ต.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัญหาโดยสรุปของอำเภอปายในห้วงที่ผ่านมา มีทั้งเรื่องตั้งสถานโบสถ์ยิวในพื้นที่ และการตั้งถิ่นฐานระยะยาวของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในอำเภอปาย ปัญหาด้านจราจร การใช้รถใช้ถนนของนักท่องเที่ยว ปัญหานักท่องเที่ยวเข้าเมืองผิดกฎหมาย นักท่องเที่ยวก่อความวุ่นวายในพื้นที่ ปัญหานักท่องเที่ยวชอบสูบกัญชาในที่สาธารณะ หลังจากได้มีสื่อโซเชียลกระจายข่าวเรื่องเหล่านี้ โดยมีเพิ่มเติมว่านักท่องเที่ยวอิสราเอลจะยึด อ.ปาย เป็นฐานที่มั่น ยึดงานคนในพื้นที่ทั้งหมด จนเรื่องเหล่านี้ทางรัฐบาลก็ให้ความสนใจ

...

เรื่องที่เกิดขึ้นทางตำรวจ ปกครอง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ ตม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบแบบปูพรมทุกหมู่บ้าน ทุกโรงแรม ทุกรีสอร์ต และมีการเข้มกวาดล้างจับกุมสิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิดในพื้นที่ รวมถึงกลุ่มคนผิดกฎหมาย ผลสรุปการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีการตรวจพบว่าทุกกิจการใน อ.ปาย เป็นของคนไทย ส่วนเรื่องคลิปข่าวเรื่องชาวยิวนั้น ตรวจสอบพบว่ามีคนยิวในห้วงปีนี้เข้ามาที่ อ.ปาย แจ้งเข้ามารวม 4,573 คน ซึ่งเป็นการแจ้งเข้าในพื้นที่พักใน อ.ปาย ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.2568 เป็นต้นมา และตรวจสอบจากข้อมูล ตม. ชาวยิว ขออยู่ต่อจำนวน 203 ราย แต่ข้อมูลวันที่ 19 ก.พ.2568 พบที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าระบบ 24 ราย

ที่พักทั้งหมดใน อ.ปาย สามารถจุคนต่อวันรวมทั้งหมดได้เพียง 3,257 ห้อง ดังนั้นกรณีที่สื่อโซเชียลนำเสนอข้อมูลว่า มีนักท่องเที่ยวชาวยิวมากกว่า 30,000 คน จึงไม่เป็นข้อมูลความจริง

และในห้วงปีที่ผ่านมาเรามีการจับกุมด้าน พ.ร.บ.จราจร เฉพาะชาวต่างชาติ 1,634 ราย และมีการเร่งประชาสัมพันธ์ให้คนต่างชาติเคารพกฎจราจร ซึ่งปัญหาชาวต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เรามีการจับกุมในรอบปี กว่า 27 ราย เป็นชาวยิว 13 ราย ซึ่ง อ.ปาย ไม่มีปัญหาใดๆ ตามที่มีสื่อโซเชียลลงเกินความเป็นจริง ทางตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการป้องกันและช่วยเหลือให้ อ.ปาย เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อและเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวมากที่สุดต่อไป

ซึ่งในวันนี้ได้ปูพรมในพื้นที่ ออกตรวจตราพร้อมประชาสัมพันธ์ ร้านที่จำหน่ายกัญชาที่ได้รับใบอนุญาตจำหน่ายกัญชาในพื้นที่จำนวน 84 ร้านในพื้นที่บริเวณโดยรอบถนนคนเดิน อ.ปาย ที่ทางด้านสาธารณสุขเป็นเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตและเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย พ.ร.บ.การสาธารณสุข และพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย โดยได้มีการประกาศและประชาสัมพันธ์ไม่สูบกัญชา ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ถนนคนเดินไปเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยว

โดยในวันนี้ดำเนินการจับกุมผู้สูบกัญชาในพื้นที่สาธารณะทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนพร้อมเปรียบเทียบปรับดำเนินคดีตามกฎหมายจำนวน 10 ราย และได้ดำเนินการตามขั้นตอน และได้ทำการบันทึกว่ากล่าวตักเตือนทางร้านที่จำหน่ายกัญชาและมีนักท่องเที่ยวดูดกัญชาในบริเวณร้าน 1 ราย พร้อมจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การท่องเที่ยวในถนนคนเดิน อ.ปาย ในค่ำคืนนี้ พบว่ายังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลายเชื้อชาติ ยังคงต้องการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวยัง อ.ปาย เป็นจำนวนมาก และ “ปาย” ยังคงเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ และเป็นเป้าหมายหลักที่นักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามก่อนเดินทางกลับประเทศของตัวเอง