ผู้นำ D.K.B.A. นำส่งเหยื่อค้ามนุษย์ลอตใหญ่ หลายสัญชาติ จำนวน 260 ราย หลังปฏิบัติการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งไทยนำรถบรรทุก-รถหุ้มเกราะ รอรับ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 ก.พ. 68 ศูนย์สั่งการชายแดนไทย ด้านเมียนมา โดยนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อม พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ได้รับการประสานจากกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือ D.K.B.A ส่งมอบเหยื่อค้ามนุษย์หลายชนชาติสัญชาติ ที่ถูกหลอกลวงข้ามแม่น้ำเมย ผ่านท่าข้าม 28 อำเภอพบพระ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารกะเหรี่ยง D.K.B.A เมียนมา จำนวนหนึ่ง นำรถยนต์กระบะจำนวน 10 คัน ข้ามฝั่งแม่น้ำเมยมาส่งเหยื่อของสแกมเมอร์ จำนวน 260 คน บริเวณท่าข้าม 28 บ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โดยเหยื่อทั้งหมด มี 11 สัญชาติ มาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า ซึ่งต่างหนีตายออกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนที่เหลือต้องรอการคัดกรองเพื่อแยกสัญชาติอีกครั้ง

พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู เผยว่า ได้เตรียมรถมาเพียงพอกับเหยื่อ โดยเป็นรถบรรทุก 10 คัน และรถหุ้มเกราะอีก 8 คัน ซึ่งตัวเลขเหยื่อมี 260 คน แต่ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง หลังจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนูรับตัวแล้ว จะนำตัวไปส่งยังที่ว่าการอำเภอพบพระ ซึ่งได้ประสานนายอำเภอพบพระ และผู้กำกับการตำรวจภูธรพบพระ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อตรวจสอบขั้นต้น หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนที่ว่าการอำเภอพบพระจังหวัดตาก ก็จะนำตัวเหยื่อค้ามนุษย์ทั้งหมด เข้าสู่ระบบคัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์ต่อไป

...

ขณะนี้ถือว่ามาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการ อย่างการตัดไฟ งดส่งน้ำมัน ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ถือว่าได้ผล เพราะเป็นผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ แต่อาจจะกระทบกับพี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องขอให้เข้าใจรัฐบาล และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ในช่วงที่ทุกคนต้องเสียสละ เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้สำเร็จลุล่วง ซึ่งหลังจากนี้ก็คาดว่าจะมีการปล่อยเหยื่อล็อตต่อไป

ส่วนการดูแลความปลอดภัยของเหยื่อนั้น เรากับทางกองกำลังฝั่งเมียนมา ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เราจึงยึดเรื่องความปลอดภัยเป็นประเด็นหลัก

ด้าน นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม ซึ่งลงพื้นที่มาติดตามการรับตัวเหยื่อทั้งหมดที่เดินทางมาในวันนี้ด้วย เพราะก่อนหน้านี้นายกัณวีร์ ได้ติดตามประสานกองกำลัง D.K.B.A เพื่อช่วยเหลือเหยื่อเหล่านี้

นายกัณวีร์ บอกว่า เหยื่อ 260 ราย มีมากกว่า 7 สัญชาติ และขณะนี้มีอีกหลายคนยังติดอยู่ในพื้นที่จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา จากการพูดคุยกับตัวเหยื่อยังมีคนติดอยู่ในวงล้อมของแก๊งสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์จำนวนหลายพันคน นี่อาจเป็นชุดแรกที่ถือว่าเป็นชุดใหญ่ที่ได้ช่วยเหลือมา และเป็นครั้งแรกที่ทำให้เห็นว่ากองกำลังชาติพันธ์ุ D.K.B.A เริ่มเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ในการไม่ยอมรับสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ และถือได้ว่าเป็นความจริงใจที่เริ่มมีให้จากกองกำลังที่ต้องติดตามกันต่อไป เพราะในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีการขยายพื้นที่ของแก๊งสแกมเมอร์และขบวนการการค้ามนุษย์ที่พ่วงไปด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงการพูดคุยและการเจรจา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับแหล่งอาชญากรรมเมืองช่องแคบ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นเอ บริเวณตรงข้ามบ้านห้วยน้ำนัก หมู่ 4 ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก มีครบตั้งแต่ยาเสพติด การค้ามนุษย์ จนถึงสแกมเมอร์ โดยแหล่งข่าวระบุว่า มีคนไทยที่ไปทำงานในเมืองนั้นกว่าร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงไทย ที่เข้าไปนั่งร้องเพลง ดื่มกับแขกในสถานบันเทิงที่มีคาราโอเกะ ยาเสพติด และงานเลี้ยงสังสรรค์ ดูแลนักดื่มชาวจีนทุกคืน

...

ล่าสุด มีรายงานว่า จากการตรวจคัดแยกสัญชาติเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลอตแรกนั้น พบว่ามีเหยื่อถึง 20 สัญชาติ แบ่งเป็น

1. สัญชาติ ฟิลิปปินส์ จำนวน 16 ราย
2. สัญชาติ เคนยา จำนวน 23 ราย
3. สัญชาติ แทนซาเนีย จำนวน 1 ราย
4. สัญชาติ บราซิล จำนวน 2 ราย
5. สัญชาติ เอธิโอเปีย จำนวน 138 ราย
6. สัญชาติ ปากีสถาน จำนวน 12 ราย
7. สัญชาติ บังกลาเทศ จำนวน 2 ราย
8. สัญชาติ เนปาล จำนวน 7 ราย
9. สัญชาติ กัมพูชา จำนวน 1 ราย
10. สัญชาติ ศรีลังกา จำนวน 1 ราย
11. สัญชาติ ยูกันดา จำนวน 6 ราย
12. สัญชาติ ไต้หวัน จำนวน 7 ราย
13. สัญชาติ ลาว จำนวน 6 ราย
14. สัญชาติ อินโดนีเซีย จำนวน 8 ราย
15. สัญชาติ บุรุนดี จำนวน 2 ราย
16. สัญชาติ ไนจีเรีย จำนวน 1 ราย
17. สัญชาติ กานา จำนวน 1 ราย
18. สัญชาติ อินเดีย จำนวน 1 ราย
19. สัญชาติ มาเลเซีย จำนวน 15 ราย
20. สัญชาติ จีน จำนวน 10 ราย