ยึดมือถือ 1,251 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มูลค่ากว่า 10 ล้าน หลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.เมียวดี ย้ายฐานไปฝั่งกัมพูชา คาดถูกกดดันหนัก
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 35 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ระมาด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 345 และฝ่ายปกครองอำเภอแม่ระมาด ศุลกากรแม่สอด ได้จัดกำลังลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ ตามคำสั่งศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา ชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก
ขณะลาดตระเวนมาถึงบริเวณเส้นทาง เขตรอยต่อ บ้านท่าล้อ-บ้านน้ำดิบบอนหวาน ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ รุ่นจีอาร์สปอร์ต สีขาว หมายเลขทะเบียนตาก ที่บรรทุกกล่องใส่สิ่งของมาเต็มคันรถ เรียกตรวจค้นหลังกระบะรถที่บรรทุกกล่องกระดาษสีน้ำตาลมาเต็มท้าย

เปิดกล่องตรวจสอบพบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1,251 เครื่อง, ซิมโทรศัพท์จำนวน 274 อัน และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน 19 ชุด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยมี นายอาทิตย์ อายุ 45 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว และนางเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นภรรยา นั่งมาด้วย ทั้งสองเป็นราษฎรอยู่อำเภอแม่ระมาด เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว
...

สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อให้มารับสิ่งของที่ริมแม่น้ำเมย ช่วงบริเวณบ้านน้ำดิบบอนหวาน อ.แม่ระมาด จ.ตาก เพื่อนำไปส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชนให้กับคนชื่อ เปาวลี อยู่ใน ต.วัฒนา อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยได้รับค่าจ้าง จำนวน 5,000 บาท เคยทำมาแล้ว 1 ครั้งและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่ถูกจับได้ก่อน

จากการตรวจสอบ คาดว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือดังกล่าว เป็นของกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใน จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สมม. (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา) ที่มีต้องการย้ายฐานการปฏิบัติไปอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา ด้านตรงข้าม จ.สระแก้ว

ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตาก กล่าวว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติงานตามคำสั่งของศูนย์สั่งการชายแดน จ.ตาก อย่างเข้มงวด ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติในด้านต่างๆ เตรียมย้ายฐานไปยังริมชายแดนฝั่งเขมร จ.สระแก้ว จึงได้ควบคุมตัวส่ง พ.ต.ท.ณว์พรรณ์ เทียมฉันท์ สารวัตรสอบสวน สภ.แม่ระมาด เพื่อทำการขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.