นาทีอันตราย ทหารกะเหรี่ยง ฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา ชักปืนยิงขู่-ชูนิ้วกลางใส่ ทีมข่าว SEE TRUE ไทยรัฐทีวี ขณะยืนรายงานอยู่ริมเมย โชคดีทหารไทยตามประกบ

วันที่ 1 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวประจำอำเภอแม่สอด จังหวัดตากรายงานว่า กรณีทีมข่าว SEE TRUE สกู๊ปข่าวสืบสวนฯ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี นำโดยนายวรวรรธน์ ขุนทอง หรือ ขุน บรรณาธิการข่าวสืบสวนฯ พร้อมทีมข่าวไทยรัฐ ได้เกาะติดรายงานข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม KK Park แหล่งคาสิโนและเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นจุดที่ดาราจีน "ซิง ซิง" โดนจับตัวไป (ตามที่ไทยรัฐเคยนำเสนอข่าวไปแล้ว)

โดยขณะที่ นายวรวรรธน์ ขุนทอง และทีมงานกำลังรายงานข่าวอยู่นั้น ทีมงานได้สังเกตเห็นชายฉกรรจ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถือปืนยาวออกมาข่มขู่ ก่อนที่จะมีชายอีกคนในชุดกางเกงขายาวลายพรางทหาร สวมเสื้อโปโลสีฟ้าอ่อน วิ่งลงมาจากเนินดิน ตะโกนเอะอะโวยวาย พร้อม "ชูนิ้วกลาง" และพูดเป็นภาษากะเหรี่ยงหรือพม่าไม่แน่ชัด ว่า "ห้ามถ่ายภาพ-ทำข่าว" ทำให้ทีม SEE TRUE ต้องหยุดชะงัก และหันไปเจรจากับชายคนนั้น

...

จากนั้น นายวรวรรธน์ จึงตะโกนถามไปว่า เป็นทหารกะเหรี่ยงใช่หรือไม่ ได้รับคำตอบว่า "ใช่" เมื่อลองถามว่าข้ามไปทำข่าวได้ไหม ชายแต่งกายคล้ายทหารเมียนมา บอกว่า “ได้ ข้ามได้” พร้อมพยายามชักชวนให้ข้ามแม่น้ำเมย เข้าไปทำข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ใน KK Park

นายวรวรรธน์ จึงถามย้ำอีกว่า “ถ้าข้ามไปจะรับประกันความปลอดภัยหรือไม่” ชายคนนั้นพยักหน้า ขณะเดียวกันได้มีทหารหน่วยชุด ฉก.ราชมนู 1 นาย ที่ซุ่มสังเกตการณ์อยู่บริเวณนั้น ได้เข้ามาคุ้มครองทีมข่าว พร้อมแจ้งเตือนมาว่าให้ระวัง หากข้ามไปจะไม่รับประกันเรื่องความปลอดภัย ซึ่งในห้วงนั้นทหารไทยก็ได้ขึ้นลำปืน M16 เตรียมพร้อมเช่นกัน

ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีชายอีกคนในฝั่งตรงข้าม ถือปืนยาวออกมายิงขู่ 3 นัด แต่หันไปในทิศทางอื่น ทางทีมงาน SEE TRUE เห็นว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ จึงตัดสินใจถอนตัวออกจากจุดบริเวณนั้นถอยออกทันที

นายวรวรรธน์ กล่าวว่า พฤติกรรมของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวที่ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ถือเป็นการข่มขู่คุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เพราะขณะนั้นตนยืนรายงานข่าวอยู่ในเขตประเทศไทยผืนแผ่นดินไทย โดยนาทีนั้นเป็นช่วงนาทีคับขัน ที่ทีมข่าวไม่ทันได้ระวังตัว เพราะหันหลังให้ประเทศเพื่อนบ้าน มั่นใจว่าปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตแดนไทย และต้องขอชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารเฉพาะกิจราชมนูนายนั้นที่มาคุ้มครองดูแลทีมข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันเดียวกัน ทีมข่าวไทยรัฐ ไปสังเกตการณ์ยังชายแดนประเทศไทย-เมียนมา ริมแม่น้ำเมย ที่ ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก อยู่ตรงข้าม เมืองชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา ซึ่งจากข้อมูลมีการระบุว่าเมืองนี้คือ “เมืองแห่งทุนจีนสีเทา” ที่ใช้เป็นฐานของสแกมเมอร์ เป็นฐานที่มั่นอันปลอดภัยของกิจกรรมหลอกลวงต้มตุ๋น เมื่อมองไปจากฝั่งไทย จะเห็นอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายอาคาร เหมือนเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่

ถัดไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นเขตพื้นที่บ้านวังผา อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งเป็นจุดที่มีข้อมูลว่ามีการตัดไฟไปประเทศเมียนมาแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่ ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเมย ตรงข้ามเมืองชเวโก๊กโก่ บอกว่า บริเวณนี้ทางการไทยได้ตัดไฟฟ้าไปทางฝั่งประเทศเมียนมาหลายเดือนแล้ว แต่ตอนกลางคืนฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน จะมีเสียงเครื่องปั่นไฟดังเกือบทุกคืน ยิ่งช่วงตรุษจีนที่ผ่านมามีทั้งเสียงเครื่องปั่นไฟและเสียงการจุดพลุเฉลิมฉลอง แต่ชาวบ้านในพื้นที่ อยู่ตรงนี้จนเคยชิน

ทีมข่าวสำรวจบริเวณพื้นที่ติดกับจุดตรวจวังผา พบว่า บริเวณนี้มีสายไฟฟ้าเชื่อมต่อจากฝั่งไทยเส้นทางมุ่งสู่เมืองชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา บริเวณนี้มีป้ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคติดอยู่ ป้ายดังกล่าว ระบุว่า จุดซื้อขายไฟฟ้าในพื้นที่มีอยู่ทั้งหมด 4 จุด แต่มี 2 จุด “หมดอายุสัมปทานแล้ว” คือบ้านวังผา อ.แม่ระมาด และบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก แต่เดิมจุดนี้ได้รับสัมปทานเป็นจุดซื้อขายไฟฟ้าส่งไปถึงบ้านก๊กโก อ.เมียวดี จำนวนพลังงานไฟฟ้าที่ส่งไปจำนวน 10 เมกะวัตต์

...

ติดตามภารกิจ SEE TRUE ตอน ตีแผ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมียวดี ได้ในวันที่ 10-11-12 ก.พ. นี้ ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD