"ทรัมป์" ตัดงบช่วยเหลือ กระทบโรงพยาบาลค่ายผู้ลี้ภัยไทย-เมียนมา ขณะที่ "แม่ตาวคลินิก" รพ.ขนาดเล็ก ยันให้บริการเหมือนเดิม หากเกินกำลังจะขอส่งต่อไปยังโรงพยาบาลใหญ่ ตามหลักช่วยเหลือของมนุษยชาติ

วันที่ 28 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนจังหวัดตาก ว่า จากกรณีคณะกรรมการผู้ลี้ภัยกะเหรี่ยงค่ายแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ออกประกาศแจ้งว่าการสนับสนุนด้านสาธารณสุขของคณะกรรมการกู้ภัยระหว่างประเทศ (International Rescue Committee -IRC) เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยจะไม่มีอีกต่อไป นับตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม เนื่องจากถูกระงับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายหลังจากการขึ้นดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รอบสอง

โดยแจ้งถึงประชาชนที่อยู่ในค่ายแม่หละทุกคนว่า ทั้งสตรีมีครรภ์ สตรีมีลูกเล็ก ผู้ป่วยอาการหนัก ผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยวัณโรค ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ทางโรงพยาบาลไม่สามารถให้บริการได้อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่แผนกผู้ป่วยนอก (OPD) และเจ้าหน้าที่แผนกผู้ป่วยใน (IPD) ปฏิบัติงานแล้ว

นอกจากนี้ ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการขายยาในค่ายผู้ลี้ภัยว่า ห้ามขึ้นราคาค่ายาที่จำหน่าย ขอให้จำหน่ายตามราคาปกติที่เคยขาย สำหรับโรงพยาบาลของ IRC จะเปิดให้บริการได้อีกเมื่อไรยังไม่ทราบถึงรายละเอียดที่แน่ชัด

...

ด้านสำนักข่าว Karen Information Centre รายงานข่าวอ้างคำเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในค่ายผู้ลี้ภัยนุโพ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่าบริการสาธารณสุขในค่ายผู้ลี้ภัย ที่ตั้งอยู่บนชายแดนไทย-เมียนมา ได้ถูกระงับแล้ว เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ระงับการให้เงินทุนแก่คณะกรรมการกู้ภัยระหว่างประเทศ เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งหมายความว่าบริการด้านสุขภาพภายใต้องค์กร IRC ก็ถูกระงับชั่วคราวเช่นกัน ทำให้ผู้ป่วยทั้งหมดยกเว้นผู้ป่วยฉุกเฉินที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในค่ายผู้ลี้ภัย ต้องออกจากโรงพยาบาล และไม่มีการรับผู้ป่วยนอกอีกต่อไป

ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบางส่วนภายใต้ USAID บนชายแดนไทย-เมียนมา ก็ถูกระงับด้วย หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อระงับความช่วยเหลือระหว่างประเทศภายในไม่กี่วันหลังจากเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริเวณชายแดนไทยมีพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ค่ายผู้ลี้ภัยอยู่ 9 ค่าย เพื่อรองรับผู้หนีภัยจากเมียนมา เมื่อกว่า 30 ปีก่อน โดยมีผู้ลี้ภัยอยู่ราว 9 หมื่นคน ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย โดยทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือด้านงบประมาณจากสหรัฐฯ และประเทศตะวันตก

อย่างไรก็ตาม แม้การสนับสนุนด้านสาธารณสุขของคณะกรรมการกู้ภัยระหว่างประเทศจะถูกระงับ และส่งผลให้โรงพยาบาล 7 แห่งในพื้นที่พักพิงในไทยต้องปิดตัวลง แต่สำหรับโรงพยาบาลแม่ตาวคลินิก ยังคงให้บริการเหมือนเดิม ซึ่งยังคงมีแรงงานต่างด้าว และผู้ลี้ภัยจากประเทศเมียนมาเข้ามาทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ "แม่ตาวคลินิก" โรงพยาบาลขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก ให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้อพยพ คนพลัดถิ่น คนไร้สัญชาติ และกลุ่มชาติพันธุ์ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่เข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขของประเทศ มีแพทย์หญิงซินเธีย หม่อง ชาวกะเหรี่ยงและเป็นหมอไร้สัญชาติผู้ก่อตั้ง "แม่ตาวคลินิก" ให้บริการ เป็นสถานพยาบาลขั้นปฐมภูมิในพื้นที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1988 หลังจากลี้ภัยสงครามกลางเมืองมาจากประเทศเมียนมา โดยในปีหนึ่งมีผู้มาใช้บริการที่คลินิกประมาณ 1 แสนคน

นายโจ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำโรงพยาบาลแม่ตาวคลินิก ซึ่งทำงานมา 5 ปีแล้ว กล่าวว่า ทราบมาบ้างเหมือนกันว่า มีบางหน่วยงานที่ไม่สามารถสนับสนุนงบประมาณผ่านองค์กรมาได้แล้ว ซึ่งมีผลกระทบบ้าง แต่หน่วยงานที่สนับสนุนได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ทางโรงพยาบาลแม่ตาวคลินิก ยังสามารถรับผู้ป่วยได้อีก แต่ถ้าเกินกำลังของทางโรงพยาบาลแม่ตาวคลินิก ก็จะประสานขอส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแม่สอด ตามหลักการช่วยเหลือของมนุษยชาติ

...

ทั้งนี้มีรายงานว่า ทางการไทย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชุมเรื่องนี้ เพื่อหารือในการรับมือสถานการณ์ความเดือดร้อนในพื้นที่พักพิงฯ โดยที่จังหวัดตาก มีพื้นที่พักพิงฯ 3 แห่ง คือ พื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านแม่หละ ตำบลแม่หละ อ.ท่าสองยาง, พื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัย บ้านอุ้มเปี้ยม ตำบลคีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก และพื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัย บ้านนุโพ ตำบลแม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก รวมผู้ลี้ภัยทั้งหมด กว่า 38,000 คน ส่วนมากเป็นชาวเมียนมา เชื้อสายกะเหรี่ยง