ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษา "ส.ต.ท." จำคุก 16 เดือน ปรับเงิน 1 แสนบาท คดี "พี่เตี้ย มช." ทารุณกรรมสัตว์ และลักทรัพย์
วันที่ 13 มกราคม 2568 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ในเวลา 9.00 น. ได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาคดี "พี่เตี้ย มช." หมาเซเลบ ที่เป็นที่รักใคร่ของชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งถูกลักพาตัวออกไปจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และไปเสียชีวิต จนมีการตามหา แจ้งความเป็นคดี จนติดตามผู้ก่อเหตุได้ คือ ส.ต.ท.ปริญญา สังกัด ตชด.ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ (ยศในขณะก่อเหตุ) และมีการฟ้องร้องกันมายาวนานต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563
หลังจากนั้น วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20, 31 จำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนคดีเรื่องข้อหาลักทรัพย์นั้นศาลชั้นต้นยกฟ้อง เนื่องจากข้อพิสูจน์ต่าง ๆ ในความเป็นเจ้าของในตัวสุนัขไม่ชัดเจน หลังผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า ตั้งใจพา "เตี้ย มช." ออกไปนั่งรถเล่น แต่เกิดอุบัติเหตุรถทับจนทำให้ "เตี้ย มช." ตาย แต่จำเลยใช้สิทธิอุทธรณ์ โดยขอประกันตัวออกไปในวงเงิน 150,000 บาท และศาลอุทธรณ์ได้นัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 และในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ศาลอุทธรณ์แจ้งเลื่อนนัดพิพากษาคดีดังกล่าวมาเป็นวันที่ 13 มกราคม 2568 เนื่องจากศาลอุทธรณ์ยังพิจารณารายละเอียดทางคดีไม่แล้วเสร็จ เพราะเป็นคดีสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ รวมถึงมีรายละเอียดทางคดีในหลายประเด็น จึงขอเลื่อนนัดพิพากษาศาลอุทธรณ์

...
โดยศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้พิพากษาในคดีนี้ว่าใจความบางส่วนว่า "ปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 โดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จากข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า สุนัขชื่อเตี้ย มช. มาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2558 โดยโจทก์ร่วม (นายสมศักดิ์ ไชยวงศ์ ผู้เสียหายที่ 1) ก็ทราบ และไม่นำสุนัขนี้กลับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มอบหมายให้ผู้เสียหายที่ 2 (นางสาววราภรณ์ อินสม ผู้เสียหายที่ 2) ซึ่งเป็นพนักงานของตนดูแลสุนัขภายในมหาวิทยาลัย ผู้เสียหายที่ 2 จึงดูแลสุนัข ชื่อเตี้ย มช. ในเรื่องอาหารและที่อยู่อาศัย จัดให้มีการฉีดวัคซีน ทำหมัน ฝังไมโครชิป ตรวจสุขภาพประจำปี พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าโจทก์ร่วมได้สละกรรมสิทธิ์ในสุนัขตัวนี้ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เข้าครอบครองเป็นเจ้าของสุนัข ส่วนผู้เสียหายที่ 2 เป็นเพียงผู้ดูแลไม่ใช่เจ้าของ ผู้เสียหายที่ 3 (มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ผู้เสียหายที่ 3) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงไม่ใช่เจ้าของเช่นกัน

ดังนั้นเมื่อสุนัขนี้เป็นของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป และแม้จำเลยจะเอาไปทำร้ายจนตายก็ถือว่าจำเลยเอาไปด้วยเจตนาทุจริตจำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ ตามที่โจทก์ฟ้องอีกกระทงหนึ่ง และจำเลยต้องชดใช้ราคาสุนัขนี้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งสุนัขตัวนี้มีคุณค่าสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ในลักษณะต่าง ๆ แก่สังคมยิ่งกว่าสุนัขทั่วไป จึงเห็นควรให้จำเลยชดใช้ราคาเป็นเงิน 100,000 บาท
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลย ส.ต.ท.ปริญญา มีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ อีกกระทง จำคุก 1 ปี 6 เดือน ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 เดือน และลดโทษจำคุก 6 เดือน ฐานทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุสมควรให้หนึ่งในสามเช่นกัน คงจำคุกในความผิดนี้ 4 เดือน รวมจำคุกจำเลย 16 เดือน ให้จำเลยชดใช้เงิน 100,000 บาท แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
หลังจากที่ศาลได้พิพากษาออกมาเช่นนี้ทางกลุ่มของคนรักสุนัขเตี้ย มช. และตัวแทน มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ซึ่งได้มาติดตามรอฟังผลการพิพากษาในวันนี้ พร้อมกับนำภาพของพี่เตี้ย มาต่างก็แสดงความดีใจออกมาหลังจากที่ต้องใช้เวลาต่อสู้คดีมายาวนานกว่า 4 ปี

นางสาวทิวากร ศิริรัตน์ คณะกรรมการโครงการ Ma CMU (หมาซีเอ็มยู) บอกว่าสุนัขเตี้ย คือสัตว์มีชีวิตหนึ่งที่มีค่า ที่ถูกกระทำทารุณกรรมและถูกพรากชีวิตไปอย่างไร้ความเมตตาปราณี การต่อสู้คดีเพื่อเป็นบรรทัดฐานในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสัตว์ชนิดอื่นๆ ด้วย
ด้านนางสาวสบันงา นนทระ ประธานและหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ บอกว่า การต่อสู้คดีนี้เพื่อให้คดีของ เตี้ย มช. เป็นกรณีตัวอย่างในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสัตว์ เนื่องจากการทารุณกรรมสัตว์ยังคงเป็นปัญหาที่พบเห็นได้อยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งคดีนี้ได้มีการส่งหลักฐานข้อเท็จจริงให้ศาลที่แสดงให้เห็นว่า เตี้ย เป็นสุนัขที่มีเจ้าของอาศัยอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยโดยมีการให้อาหาร ฉีดวัคซีน ทำหมัน ตรวจสุขภาพประจำปีและฝังไมโครชิปด้วย
...
พี่เตี้ย มช. เป็นสุนัขเพศผู้อายุ 8 ปี อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักจากประเพณีรับน้องขึ้นดอยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในทุกๆ ปี จะร่วมวิ่งขึ้นดอยกับนักศึกษา จนกลายเป็นขวัญใจของชาว มช. กระทั่งวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 เตี้ยได้หายตัวไป ทำให้นักศึกษาและศิษย์เก่าพากันออกตามหาและมีการลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ หลังหายตัวไปนานหลายวัน ก็พบร่างเตี้ยถูกยัดใส่ถุงพลาสติกทิ้งไว้ในป่าริมถนน ต่อมาชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนที่พาเตี้ยออกจากมหาวิทยาลัย คือ ส.ต.ท.ปริญญา ภายหลังให้การรับสารภาพว่าตั้งใจพาเตี้ยออกไปนั่งรถเล่นแต่เกิดอุบัติเหตุถูกรถทับจนเตี้ยตาย

ทั้งนี้วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ศาลชั้นต้น พิพากษาให้ ส.ต.ท.ปริญญา จำคุก 6 เดือน ฐานความผิดทารุณกรรมสัตว์ ส่วนคดีลักทรัพย์นั้นยกฟ้องเนื่องจากข้อพิสูจน์ต่าง ๆ ในความเป็นเจ้าของในตัวสุนัขไม่ชัดเจน แต่หลังจากนั้นในชั้นศาลอุทธรณ์ ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้ส่งหลักฐานการอาศัยอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยโดยมีการให้อาหาร ฉีดวัคซีน ทำหมัน ตรวจสุขภาพประจำปีและฝังไมโครชิป เพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าของพี่เตี้ย ซึ่งศาลได้พิจารณาว่าพี่เตี้ย มีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นเจ้าของ ซึ่งนำมาสู่การพิจารณาในความผิดฐานลักทรัพย์เพิ่มเติมในที่สุด.
...