สาวลำปางร้องสื่อ หลังทำศัลยกรรมเสริมอึ๋ม คลินิกแห่งหนึ่งใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สุดช้ำนมเน่าไม่เท่ากัน เผยทรมานทั้งทางร่างกาย-จิตใจนาน 2 ปี สุดท้ายเจรจาจี้เยียวยาเรียกเงิน 3 หมื่น แต่เคลียร์ไม่ลง ถูกท้าฟ้องศาล
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ชาว จ.ลำปาง นำภาพถ่าย, คลิปวิดีโอ, เอกสาร และแชตข้อความต่างๆ มอบให้กับผู้สื่อข่าว หลังจากที่ไปทำการเสริมหน้าอกกับคลินิกแห่งหนึ่งที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยได้ตัดสินใจเริ่มเสริมอึ๋มขนาด 400 ซีซี กับคลินิกดังกล่าว ในราคา 55,000 บาท แต่หากรีวิวให้คลินิกจะลดให้ 5,000 บาท จึงตัดสินใจทำโดยจะรีวิวให้ ตกลงกันในราคา 50,000 บาท และทำการมัดจำครั้งแรก 10,000 บาท และใหัโอนจ่ายอีก 40,000 บาท ในวันที่ทำการผ่าตัด วันที่ 15 ก.ค. 2565
"ต่อมาหลังจากผ่าตัดไปได้ 10 กว่าวัน หมอนัดตัดไหมที่คลินิกดังกล่าว ตนจึงแจ้งหมอไปว่าหน้าอกซ้ายยังมีอาการเจ็บปวดอยู่ หมอให้เฝ้าสังเกตอาการจนผ่านไปครบ 1 เดือน คลินิกมีการนัดนวดหน้าอก แต่คนนวดแจ้งว่าไม่สามารถนวดได้ เพราะพังผืดเกาะจนนมเริ่มแข็ง ก็เลยไม่นวด พอกลับมาที่บ้านหลังจากนั้นประมาณ 5 วัน เริ่มมีอาการปวดมากขึ้นอีก จึงกลับไปหาหมอที่คลินิกช่วงต้นเดือน พ.ย. 2565 หมอแจ้งว่านมด้านซ้ายมีน้ำเหลืองมากเกินไป หมอเลยเจาะระบายน้ำเหลืองออก เมื่อเจาะระบายเสร็จ ตนก็กลับมาพักที่บ้านใน จ.ลำปาง แต่หลังจากนั้นนมก็มีทั้งน้ำเหลืองและเลือดไหลออกมาตลอดเวลา และมีความผิดปกติมาก ในวันที่ 15 พ.ย.-ธ.ค. 2565 สุดท้ายคลินิกแนะนำให้เอาซิลิโคลนออก ตนจึงตัดสินใจถอดออกในเดือน ธ.ค. 2565" น.ส.เอ กล่าว
น.ส.เอ เล่าต่อว่า พอผ่านไปหลายเดือน ด้วยการที่ตนเป็นผู้หญิงมองดูนมที่ไม่เท่ากันของตัวเองทุกวัน เลยทำให้เครียดหนัก แถมยังมีปัญหาในครอบครัว จนสุดท้ายต้องเลิกรากับแฟน จึงปรึกษาทางคลินิกว่า จะขอใส่ซิลิโคนก่อนกำหนด ซึ่งทางคลินิกก็แนะนำว่าอาจจะเกิดปัญหาได้ เพราะยังพักไม่กี่เดือน สุดท้ายคลินิกก็ยอมให้ผ่า แต่มีเงื่อนไขว่า ตนจะต้องเซ็นให้ความยินยอมว่า ทางคลินิกจะไม่รับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้นมา เพราะการใส่ซิลิโคนเป็นการใส่ก่อนกำหนดที่ควรจะเป็น จึงตัดสินใจเซ็นและนัดผ่าตัดในวันที่ 18 มี.ค. 2566 โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มให้กับคลินิกเป็นค่าดมยาสลบ 5,000 บาท ค่าซิลิโคนอีก 10,000 บาท รวม 15,000 บาท"
...
น.ส.เอ เล่าต่อว่า ต่อมาวันที่ 10 เม.ย. 2566 ตนมีอาการนมบวม และเจ็บปวดมากอย่างรุนแรง จนเวลา 21.15 น. วันที่ 15 เม.ย. 2566 จึงส่งรูปนมให้คลินิกดู เขาแนะนำให้ถอดพักอีกครั้ง ตอนนั้นคิดว่าการเปลี่ยนคลินิกอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า จึงตัดสินใจเปลี่ยนคลินิก โดยครั้งนี้ได้ไปปรึกษาที่คลินิกในกรุงเทพฯ เมื่อไปถึงหมอบอกว่าติดเชื้ออย่างรุนแรง จึงทำการถอดพักอีกครั้ง และต้องเสียเงินค่าถอดอีก 20,000 บาท ตอนนั้นจึงได้ติดต่อไปยังคลินิกเก่าให้ทราบ และเขาก็แจ้งว่าหากจะกลับมาใส่ซิลิโคนใหม่ ทางเขาก็จะคิดแค่ค่าซิลิโคนเท่านั้น ตอนนั้นนมอักเสบอย่างรุนแรง จึงทำการผ่าตัดถอดที่คลินิกแห่งใหม่ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 22 เม.ย. 2566 และใช้ชีวิตด้วยการมีนมไม่เท่ากันมาจนถึง 2 ก.ค. 2567 ซึ่งตอนนั้นตนก็เก็บเงินได้มากพอที่จะทำนมใหม่อีกครั้ง ซึ่งยอมรับว่าตนก็ยังมั่นใจในคลินิกเดิมอยู่ จึงทักไปหา เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมาว่า จะใส่ซิลิโคนใหม่อีกครั้ง ทางเซลส์ของคลินิกให้ตนถ่ายรูปไปให้ดู และเขานัดวันผ่าตัดในวันที่ 17 ก.ค. 2567
"ซึ่งตอนนั้นตนยังแชตถามเขาว่า จะมีปัญหาเหมือนเดิมอีกหรือไม่ เขาบอกว่าจะเปลี่ยนหมอคนใหม่ให้ แต่จะต้องคิดเงินเพิ่มค่าซิลิโคน 45,000 บาท โดยนัดผ่าในวันที่ 17 ก.ค. 2567 จึงตอบตกลง แต่ต่อมาคลินิกโทรมาขอเลื่อนนัดจากเดิมไปปลายเดือน ก.ค. 2567 ตอนนั้นตนโมโหมาก เลยต่อว่าทางคลินิกไปว่า ตนลางานมาแล้วและตัดสินใจยกเลิก และเปลี่ยนไปเสริมหน้าอกที่คลินิกแห่งใหม่ ในวันที่ 21 ก.ค. 2567 กระทั่งวันที่ 27 ก.ค. 2567 ตนไปคุยกับทางคลินิกเดิมอีกครั้ง ซึ่งอยากให้เขาเยียวยา โดยเรียกเงินไป 30,000 บาท แต่เขาบอกว่าจะรับผิดชอบให้แค่แก้งานใส่ใหม่เท่านั้น จึงตกลงกันไม่ได้ แถมท้าให้ฟ้องศาล และบอกว่าสุดท้ายเขาอาจจะจ่ายให้แค่ 2-3 พันบาทเท่านั้น ไม่คุ้มกับค่าทนาย ตนเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม จึงมาร้องสื่อ" น.ส.เอ กล่าว