โล้นห่มเหลือง ปลอมตรายางวัด ปลอมเอกสารอนุญาต เรี่ยไรเงิน หลอกพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดกลางเมืองเชียงราย ติดต่อกันมาหลายปี มีทั้ง บวชเณรฤดูร้อน ขอบริจาคซื้อหนังสือ รูปละ 3,000 บาท ตกเป็นเหยื่อทั้งตลาดมานานหลายปี
กรณี ชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ออกเรี่ยไร ขอรับเงินรับเงินทำบุญ ตามโครงการสร้างหนังสือเรียนแด่พระภิกษุสงฆ์ และสามเณร ระดับนักธรรมชั้นตรี นักธรรมชั้นโท นักธรรมชั้นเอก และอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ลงวันที่ 20 พ.ค.2567 ซึ่งออกประกาศเรี่ยไรบริเวณตลาดสดเทศบาล 1 เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย แม่ค้าเห็นมาบ่อยจนผิดสังเกต
โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวไปที่ตลาดเทศบาล 1 กลางเมืองเชียงราย พบกับ นางนันทนา วงค์สุภา และนายทวิล น้อยมาลี คณะกรรมการตลาดสดเทศบาล 1 สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว นางนันทนาได้เล่าว่าเมื่อไม่กี่วันผ่านมา คนในตลาดได้ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมาสอบถามถึงความเป็นมาของพระ ที่ออกมาเรี่ยไรขอรับเงินบริจาคตลอดมา 1 ปี ประมาณ 2-3 ครั้ง โดยทุกปีพระรูปนี้จะมาพร้อมเณร 2-3 รูป เดินตามมาด้วยมาพบคณะกรรมตลาด เพื่อขอประกาศเสียงตามสายที่หอกระจายเสียงตลาด พร้อมกับยื่นเอกสารขอเรี่ยไรให้คณะกรรมการดู โดยอ้างว่า ได้ขออนุญาตจากเทศบาลเชียงราย และ สภ.เมืองเชียงราย เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งมาทุกปี ตรงตามเทศกาล หรือตามวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้เงินบริจาคทำบุญปีละหลายแสนบาท
ต่อมามีพ่อค้าแม่ค้า ที่ร่วมทำบุญเกิดข้อสงสัยว่าพระรูปนี้เป็นพระจริงหรือปลอม และเอกสารที่อ้างว่าได้ขออนุญาตออกเรี่ยไรจากทางเทศบาล และตำรวจ สภ.เมือง จริงหรือไม่ จึงโพสต์สอบถามออกทางโซเชียล ต่อมา เจ้าคณะอำเภแม่สรวย ได้ชี้แจงว่าตามเอกสารขอเรี่ยไรเงิน อ้างชื่อวัดศรีมงคล ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พร้อมตราประทับวัดนั้น จากการตรวจสอบไม่มีชื่อวัดนี้ในสารระบบ และหนังสืออนุญาตการเรี่ยไรของเทศบาลนครเชียงราย และตำรวจ สภ.เมือง ก็เป็นของปลอม
...
นางวิลาวรรณ นันต๊ะรัตน์ และนายอุดม นันต๊ะรัตน์ สองสามีภรรยา ที่เคยสูญเงินกับพระรูปดังกล่าวมานับหมื่นบาท เปิดเผยว่าพระรูปดังกล่าวได้มาพร้อมเณร พูดคุยชักชวน ให้ร่วมทำบุญซื้อหนังสือ และบางครั้งมาขอช่วยบวชเณรภาคฤดูร้อน อ้างว่าเณรยากจน ตนเองและพ่อค้าแม่ค้าหลายคน ร่วมทำบุญไปเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวเองครั้งแรกมาขอช่วยบวชเณร รูปละ 3,000 บาท ต่อมาก็ทยอยโทรมาขอเรื่อยๆ รวมเงินแล้วหลักหมื่นบาท สุดท้ายทนไม่ไหวจึงบอกว่าไม่สามารถร่วมทำบุญได้แล้วเพราะหาเช้ากินค่ำ (ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าจะไม่มีเวลาไปทำบุญ หากมีพระมาที่ตลาดก็อยากจะร่วมทำบุญ) ซึ่งก็พบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าหลายรายที่สูญเงินไปกับพระดังกล่าว จำนวนมาก
นางวิลาวรรณ ยังกล่าวอีกว่า ไม่อยากให้พระที่ห่มเหลือง มาสร้างความเสื่อมเสียแก่พุทธศาสนา หากเป็นแบบนี้ไปลูกหลานที่รับรู้ข่าวสารทุกวัน ตามที่เป็นข่าว วันข้างหน้าลูกหลานจะไม่เคารพศรัทธานับถือพระที่บวชอีก
ด้านสำนักพุทธเชียงราย ได้ออกมาชี้แจ้งว่า ยังไม่รับทราบในเรื่องนี้ แต่ได้เห็นเอกสารตามที่สำนักงาน พระมหาสุบรรณ มหาคัมภีโร เจ้าคณะอำเภอแม่สรวย ออกมาชี้แจงว่า เกี่ยวกับกรณีที่มีพระออกมาเรี่ยไร โดยอ้างว่าเป็นวัดศรีมงคล ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นั้น ไม่ปรากฏมีชื่อวัดดังกล่าว และไม่มีชื่อพระครูไพบุลย์ อนุตโร เป็นเจ้าอาวาส จึงขอชี้แจงว่าเป็นการแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์ ของมิจฉาชีพโดยหลอกลวงพุทธศาสนิกชนให้เข้าใจผิด เพื่อให้ได้เงินจากการบริจาค หากพบเห็นสามารถแจ้งตำรวจได้ทุกสถานี