กะเหรี่ยง "คะเรนนี" จัดตั้งกองกำลังรักษามั่นคงชายแดนเมืองชาดอว์ หลังร่วมกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) บุกยึดจากทหารพม่า เผยภาพการฝึกกำลังพลทหารใหม่จำนวน 220 นาย ในจำนวนนี้มีทหารหญิงรวมอยู่ด้วย 25 นาย "พลเอกอ่องเมี๊ยะ" เสนาธิการกองทัพระบุ มีเป้าหมายจัดตั้งรัฐบาลรักษาการภายในปี 2569 และกำหนดจัดการเลือกตั้งในปี 2573


วันที่ 4 พ.ค. 67 มีรายงานจากกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธ์ระบุว่า กองกำลังกะเหรี่ยงคะเรนนี หรือคะยา (KA) และกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) ได้ร่วมกันจัดตั้งกองกำลังรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยชายแดนในพื้นที่เมืองชาดอว์ จ.ลอยก่อว์ หลังจากทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือกันบุกยึดค่ายทหารเมียนมาและขับไล่ทหารเมียนมาออกจากพื้นที่เมืองชาดอว์ได้สำเร็จ นอกจากนี้กองกำลังผสมกะเหรี่ยงยังสามารถขับไล่ทหารเมียนมาตั้งแต่พื้นที่ชายแดนตรงข้ามช่องทางน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ไปจนถึงพื้นที่ชายแดนฝั่งตรงข้ามบ้านรวมไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ออกจากพื้นที่ไปจนหมดสิ้น  


โดยกองกำลังรักษาความมั่นคงชายแดนของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่จัดตั้งขึ้น เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเมืองชาดอว์ ปัจจุบันได้รับการยอมรับในเบื้องต้นว่า เป็นองค์กรที่จะอยู่ภายใต้การบริหารงานของเมืองชาดอว์ หลังจากที่ได้มีการเสร็จสิ้นการฝึกอบรมเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีกำลังพลจำนวน 220 นายและในจำนวนนี้มีทหารหญิงรวมอยู่ด้วย 25 นาย โดยทั้งหมดจะมีการคัดเลือก 12 นาย ให้ทำหน้าที่ในกรมป่าไม้ และผู้เข้ารับการอบรมที่เหลือจะทำหน้าที่เป็นกองกำลังรักษาความมั่นคงเมืองชาดอว์

...


สำหรับกองทัพกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่นำโดยกองกำลังกะเหรี่ยงคะเรนนี หรือคะยา ปัจจุบันสามารถยึดพื้นที่ในรัฐคะเรนนีจากทางการเมียนมาได้แล้ว 90%  มีกำลังพลของกองทัพเมียนมารวมกันเหลืออยู่ในรัฐคะเรนนีเพียง 10% โดยกองทัพกะเหรี่ยงจะกวาดล้างขับไล่ทหารเมียนมาให้หมดสิ้นในรัฐคะเรนนีภายในปี 2567 นี้ ซึ่งหมายความว่าจะต้องยึดฐานที่มั่นทหารเมียนมาได้อีก 6 ฐานถึงจะสามารถยึดครองรัฐคะเรนนีได้ 100% 


ก่อนหน้านั้น พลเอกอ่องเมี๊ยะ เสนาธิการกองทัพรัฐคะเรนนี ระบุว่า ทางกองทัพคะเรนนีมีเป้าหมายคือการจัดตั้งรัฐบาลรักษาการภายในปี 2569 และกำหนดจัดการเลือกตั้งในปี 2573 ทั้งนี้เป้าหมายจะเป็นไปได้จะต้องได้รับความร่วมมือกับกองกำลังกลุ่มต่อต้านต่างๆ ด้วย ในการวางแผนงานทางการเมืองนี้ ซึ่งก็มีเป้าหมายนี้เท่านั้นที่จะทำให้บรรลุถึงประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และอำนาจการตัดสินใจเองตามที่ประชาชนปรารถนา.