เสือโคร่งข้ามถิ่นจากแม่วงก์ คาบหมูชาวบ้านในหมู่บ้านกะเหรี่ยงใน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ไปกิน ยังคงวนเวียนเฝ้าเหยื่อไม่ยอมไปไหน ล่าสุดกล้องจับภาพสัตว์บันทึกภาพขณะกลับมากินซาก เป็นเสือวัยรุ่น ไม่ใช่เสือแก่ แต่ผอมโซ คาดอดอาหารมานาน
กรณีชาวบ้านพบเสือโคร่งออกนอกป่าคลองลานมาเดินบนถนน และคาบคอหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงในเล้าหลังบ้านไปกิน ภายในหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก แหล่งท่องเที่ยว อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
ล่าสุดเวลา 09.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 นายนายสุระชัย โภคะมณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ 60 นาย ยังคงควบคุมพื้นที่โดยรอบ และประชาสัมพันธ์ไม่ให้ราษฎรในหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก และหมู่บ้านใกล้เคียง ทำร้ายเสือโคร่ง และไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่รัศมี 5 ตารางกิโลเมตร เกรงจะได้รับอันตราย
โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลัง 4 ทิศเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรมเสือโคร่งตลอดเวลา ทั้งคืนวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยติดตั้งกล้อง NCAPs จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และกล้อง Camera Trap จากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย) ตามต้นไม้หลายๆ ต้นเพื่อคอยดูความเคลื่อนไหวของเสือโคร่งที่จะย่องเข้ามาดูเหยื่อ พร้อมวางแผนขั้นต่อไปทันทีที่เห็นภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้
...
ทั้งนี้จากการประเมินอาการของเสือโคร่ง พบเป็นเสือโคร่งเพศผู้ วัยรุ่น สูงประมาณ 70-80 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1.50 เมตร อายุประมาณ 2 ปี ร่างกายผอม เดินเหมือนไม่มีแรง มีอาการเหมือนหิว อาจอดอาหารมาหลายวัน และมีอาการหวาดระแวง วิ่งบ้างเดินบ้างตลอดจากนั้นก็หลบหมอบในพุ่มไม้ป่ารกเงียบๆ
นางสาวพิมพ์ชนก สรงมงคล นายสัตวแพทย์, ดร.อัจฉร ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สบอ.12 (นครสวรรค์) ทีมเจ้าหน้าที่ WWF กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เป็นองค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และนางสาวอังสนา มองทรัพย์ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้ปรึกษาวางแผนวิธียิงยาสลบ พร้อมกรงที่เตรียมไว้เพื่อเคลื่อนย้ายนำเสือโคร่งออกนอกพื้นที่ทันที นำไปฟื้นฟูที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ต่อมาพบว่ากล้อง NCAPs ของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และกล้อง Camera Trap จากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย) ตามต้นไม้หลายต้น สามารถบันทึกภาพ และวิดีโอการเข้าออกของเสือโคร่งในพื้นที่ป่ามะขามหวาน เนื่องจากเสือโคร่งยังคงวนเวียนอยู่แถวๆ เหยื่อซึ่งเป็นหมูบ้านที่ได้คาบไปจากเล้าของชาวบ้านเมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ. แต่เจ้าหน้าที่ฯ ก็ยังไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ เนื่องจากเสือโคร่งหลบซ่อนตัวในพื้นที่ป่ารก ทำให้เป็นอุปสรรคในการยิงยาสลบ
อย่างไรก็ตามจะดำเนินการนำเสือออกจากพื้นที่ให้โดยเร็ว โดยมีการจัดกำลังเจ้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี มาเสริมเพิ่มอีก คาดว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาดแผนการคงจะได้ตัวค่ำคืนนี้
สำหรับจุดที่เสือโคร่งมาที่นี่อาจเป็นเพราะหมู่บ้านกว่าร้อยหลังคาเรือน ชุมชนของชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอเกือบทุกหลังมีการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะหมู ซึ่งบริเวณป่ารกท้ายหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก เขตตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ด้านทิศตะวันตก ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติคลองลานเพียง 500 เมตร
ส่วนประชาชนช่วงนี้หลายคนยังตื่นตระหนก บอกว่าไม่เคยเห็นเสือโคร่งมาหลาย 10 ปีแล้ว แต่เข้าใจในสถานการณ์ เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ จัดเวรยาม ซึ่งตอนนี้เสือตื่นตัวนี้วิ่งไปมาตลอดแนวลำคลองน้ำหลังหมู่บ้านพร้อมเสียงคำรามในยามค่ำคืน แต่เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังก็เข้าควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว ซึ่งขณะนี้มีหมูของราษฎรถูกเสือโคร่งคาบไปกิน 1 ตัวเท่านั้น
ด้านนักวิจัยเผยว่าการล่าของเสือโคร่งจะใช้วิธีกระโจนเข้าใส่เหยื่อที่หมายตาไว้อย่างรวดเร็ว โดยหมายที่บริเวณคอของเหยื่อซึ่งเป็นจุดตายสำคัญ เมื่อกินเหยื่อจนอิ่มแล้ว เสือโคร่งก็จะนำหญ้า หรือเศษใบไม้มาคลุมอำพรางเหยื่อไว้ เพื่อกลับมากินซากที่เหลือต่อ
...
"เสือหนึ่งตัวสามารถกินเนื้อได้ถึง 40 กิโลกรัมในหนึ่งครั้ง เพราะฉะนั้นเสือต้องกินเก้งถึง 3 ตัวต่อสัปดาห์จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่หากอยู่ในภาวะอาหารขาดแคลน เสือโคร่งก็อาจล่าสัตว์เล็กอย่าง หมูป่า ลิง นก ปลา หรือสัตว์เลื้อยคลานด้วย".
CR : ภาพจากกล้อง NCAPs จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และกล้อง Camera Trap องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย)