ระทึก สถานการณ์ไฟป่า จ.ตาก ปะทุหนัก ลุกลามทั่วบริเวณ หน่วยป้องกันและรักษาป่า ตก.17 ต้องสนธิกำลังเข้าดับไฟ พร้อมจับพรานป่าที่ลอบยิงสัตว์ป่า โดยมีซากเก้ง ที่หนีภัยจากไฟ
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 67 สถานการณ์ไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดตาก เริ่มทวีความรุนแรงอย่างหนัก ส่งผลให้ขณะนี้หมอกควันพิษจากไฟป่าลอยปกคลุมทุกพื้นที่ของจังหวัดตาก เช้านี้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศ ได้ 53.9 มคก./ลบ.ม. เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ส่งผลต่อระบบหายใจ ควรกำจัดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ด้านนายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) สั่งการให้หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ตก.17 ทรัพย์สมบูรณ์ สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส.เมืองตาก และเครือข่ายดับไฟป่าในพื้นที่ ร่วมกันเดินเท้าขึ้นไป ดับไฟป่า ที่เกิดขึ้นบริเวณภูเขาท้ายหมู่บ้าน บ้านตลุกสัก หมู่ที่ 13 ต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟป่าไว้ได้ มีพื้นที่ป่าได้รับเสียหายประมาณ 5 ไร่
...
ทั้งนี้ สถานการณ์จุดความร้อน (Hotspot) จากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน รวมทั้งหมด จำนวน 228 จุด ตรวจพบสูงสุดในวันที่ 8 ก.พ. 67 จำนวน 24 จุด ระดับอำเภอที่ตรวจพบสูงสุด อ.แม่สอด จำนวน 41 จุด, พื้นที่รับผิดชอบที่ตรวจพบสูงสุด ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 110 จุด
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไฟป่า ส่งผลกระทบต่อวิถีสัตว์ป่า ต้องอพยพหนีไฟป่า เพื่อหาแหล่งที่อยู่ใหม่ และพรานป่าที่เป็นชาวบ้าน อาศัยอยู่ในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ลักลอบยิงสัตว์ป่า โดย นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปิง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการป่าไม้ และป้องกันไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบเหนือเขื่อนภูมิพล เมื่อใช้เรือตรวจการณ์ บริเวณป่าห้วยหมูเน่า ตำบลบ้านนา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ได้ตรวจพบ นายสมเกียรติ์ เกตุหมู อายุ 48 ปี ชาวบ้าน บ้านโสมง หมู่ที่ 4 ต.บ้านนา อ.สามเงา จ.ตาก พร้อมตรวจยึดซากอีเก้ง หรือ ฟาน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองเดียวเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก และ เครื่องกระสุนปืน จำนวน 4 นัด ขณะลักลอบ นำซากเก้ง ใส่ไว้ในเรือหางยาวล่องจากเหนือน้ำ เพื่อจะกลับหมู่บ้าน ห่างไปประมาณ 17 กิโลเมตร ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่า ทำให้สัตว์ป่า ตื่นหนีไฟป่า และอพยพเคลื่อนย้ายถิ่น ทำให้ ชาวบ้านที่เป็นพรานป่าฉวยโอกาสที่สัตว์ป่าอพยพหนีไฟป่า มาลักลอบแอบซุ่มยิงดังกล่าว