ศาลอาญาทุจริตฯ เรียกสองครูฝึกทหารให้การคดีทหารใหม่เสียชีวิต เมียอุ้มลูกน้อยวัย 1 เดือน ร้องขอความเป็นธรรม เผยเป็นคดีแรกของ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ม.ค.67 ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ นัดสอบคำให้การครูฝึกทหาร 2 นาย ในความผิดข้อหาร่วมกันกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 กรณี พลทหารกิตติธร เวียงบรรพต เสียชีวิตหลังเข้ารับการฝึกทหารเกณฑ์ พลัด 1/66 ที่ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย โดยคดีนี้นับเป็นคดีแรกที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หลังมีการบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา 

 

ในวันนี้ครูฝึกทหารทั้งสองนายเดินทางมาให้การต่อศาลตามนัดหมาย โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ขณะที่ นายสุวิทย์ เวียงบรรพต บิดา และ นางแก้วกัญญา แซ่ลี ภรรยาของพลทหารกิตติธร อุ้มลูกชายวัย 1 เดือน มาร่วมรับฟังในฐานะโจทก์ร่วม โดยมีกลุ่มญาติของพลทหารกิตติธรกว่า 20 คน รวมตัวถือป้ายเรียกร้องความยุติธรรมในคดีนี้บริเวณด้านหน้าศาล 

 

นางแก้วกัญญา แซ่ลี อายุ 26 ปี ภรรยาของพลทหารกิตติธร เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ยังคงคิดถึงสามี และยังรับไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะสามีเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ต้องดูแลลูกเมียและพ่อแม่ เมื่อเสียชีวิตทุกคนก็ลำบาก โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ตนเองเพิ่งจะคลอดลูกชายได้เพียงหนึ่งเดือน ตนเองและครอบครัวต้องการได้รับความเป็นธรรม จึงต้องออกมาสู้เพื่อให้มารับผิดชอบ และหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมในเร็ววันนี้ 

...

 

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 66 บิดา และภรรยาของพลทหารกิตติธร ได้เดินทางไปเพื่อรับพลทหารกิตติธรที่ค่ายเม็งรายมหาราช และพบว่าพลทหารกิตติธรมีอาการอิดโรย ตัวซีด ไข้ขึ้น มีอาการร้อนและหนาว มีอาการป่วยมาหลายวัน พลทหารกิตติธร พยายามขอให้ทางผู้บังคับบัญชาส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้รับการอนุญาต ในวันดังกล่าวภรรยาของผู้ตายจึงยืนกรานขอให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช แต่อาการไม่ดีขึ้น

   

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 66 พลทหารกิตติธร ถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา // เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 66 บิดา และภรรยาของผู้ตาย จึงได้ร้องเรียนต่อพนักงานอัยการศูนย์ป้องกันการทรมาน-อุ้มหาย จ.เชียงราย ว่า มีข้อสงสัยต่อการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธรเป็นอย่างมาก และได้ส่งร่างของพลทหารกิตติธรไปผ่าชันสูตรศพเพื่อค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 

 

ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค. 66 หลังการเสียชีวิต 6 เดือน พนักงานอัยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมาน จังหวัดเชียงราย มีความเห็นสั่งฟ้องที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 เป็นคดีหมายเลขคดี ปท 1/2566 เจ้าหน้าที่ทหาร 2 ราย (จำเลย) ในข้อหาร่วมกันกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565

  

คดีนี้นับเป็นคดีแรกที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หลังมีการบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา

 

นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ทนายความอาสาจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ที่เข้ามาช่วยเหลือในคดีนี้ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางจำเลยได้ขอเลื่อนนัดให้การเป็นวันที่ 5 มีนาคม โดยให้เหตุผลว่ายังไม่พร้อม และทนายไม่ได้มาศาล 

 

สำหรับคดีนี้อยากเป็นคดีตัวอย่างให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับนโยบายการเกณฑ์ทหาร ที่ผ่านมาก่อนที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายจะบังคับใช้ก็เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาทั่วประเทศ แต่การดำเนินคดีอาญา และการสอบสวนภายในรวมทั้งการชดเชยเยียวยา มักจะไม่ปรากฏต่อสาธารณะ และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีมาตรการป้องปรามที่ดี จึงอยากให้คดีนีได้เป็นบรรทัดฐานที่จะนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับทหารใหม่ รวมทั้งมีมาตรการป้องกันการทำร้ายทหารใหม่จนบาดเจ็บเสียชีวิต และป้องกันการละเมิดสิทธิ์ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในระหว่างการฝึกทหารใหม่ต่อพลทหารจำนวนนับเป็นหมื่นคนในแต่ละปี.