สลด "ถังแก๊สระเบิด" ระหว่างซ้อมดับเพลิง ภายในโรงงานน้ำตาล ที่อุตรดิตถ์ คร่าชีวิตวิทยากรสาธิต ดับสยอง 1 ราย เผยผู้ตายทำหน้าที่คุมวาล์วหัวถัง แรงระเบิดทำร่างกระเด็นไกลกว่า 10 เมตร 

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 22 พ.ย. 66 ร.ต.อ.เดชดำรงค์ ทองก้อน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุถังแก๊สระเบิด ภายในบริเวณโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ จำกัด ต.คุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ) จ.อุตรดิตถ์ แพทย์เวร รพ.อุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลเมืองและกู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์

ที่เกิดเหตุเป็นลานกว้างหน้าโรงงาน มีกำแพงสูงปิดกัน พบศพ นายสุรชาติ ภู่บุบผา อายุ 58 ปี ชาว อ.เมืองอุตรดิตถ์ สภาพแขนขวาขาดกระเด็นไกลกว่า 50 เมตร บริเวณหน้าอกและใบหน้าถูกแรงอัดอย่างแรง จากการระเบิดของถังแก๊ส

จากการสอบถามทราบว่า ผู้ตายเป็นเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และมาเป็นวิทยากรสาธิตการดับเพลิงให้กับพนักงานโรงงานดังกล่าว ระหว่างการสาธิตเกิดเหตุถังชุดควบคุมแรงดันการฝึกระเบิด จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

จากการสอบถาม นายวิทยา ใต้เกิด หัวหน้าฝ่ายปกครองเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวมีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือ ปภ.เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เป็นประจำทุกปี เพื่อจัดวิทยากรมาให้ความพนักงานเกี่ยวกับอัคคีภัยและการดับเพลิงจากแก๊สและน้ำมัน ซึ่งผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวิทยากร ซึ่งเป็นครูฝึกดับเพลิงของกรมการปกครองรุ่นที่ 8 และเป็นวิทยากรฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุให้กับทุกสถาบันในจังหวัดอุตรดิตถ์

"ครั้งนี้ได้รับมอบหมาย 2 คน ดำเนินการสาธิตวิธีดับเพลิง จากแก๊สและน้ำมัน จริงๆ แล้วไม่ใช่ถังแก๊สที่ระเบิด เป็นถังที่ประดิษฐ์ดัดแปลงขึ้นมา ซึ่งตามขั้นตอนสาธิตจะมีการฝึกดับแก๊ส LPG และเป็นการดับน้ำมัน โดยถังที่ระเบิดเป็นถังแก๊สเปล่าที่ใส่น้ำมัน ปกติจะใช้น้ำช่วยดัน แต่วันนี้ใช้ออกซิเจนดัน ช่วงเกิดเหตุไม่มั่นใจว่ามีความผิดพลาดอะไร หรือน้ำมันอาจจะหมด จนเหลือแต่ไนโตรเจน จึงทำให้ความดันไนโตรเจนขยายตัว จนเกิดระเบิดได้ โดยผู้ตายทำหน้าที่ผู้ควบคุมวาล์วหัวถัง ได้รับแรงกระแทกจากถังที่ระเบิด จนร่างกระเด็นเกือบ 10 เมตร เสียชีวิตทันที" หัวหน้าฝ่ายปกครองเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ กล่าว

...

เบื้องต้น หลังการชันสูตรพลิกศพ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมอบศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป