ผบก.ปปป. ตั้ง 18 อรหันต์ หย่าศึก "วัดบางคลาน" หลังมีปัญหาเรื้อรังมา 9 ปีเต็ม แบ่งทีมตรวจสอบทรัพย์สินวัด-การขึ้นทะเบียนสมบัติ-จำแนกคดีชาวบ้านที่ถูกฟ้องร้อง
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 66 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นิมนต์พระเทพปัญญาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 4 ร่วมเจรจาทำความเข้าใจแนวทางการแก้ปัญหาข้อพิพาทวัดหิรัญญาราม หรือ "วัดบางคลาน" ที่ยืดเยื้อมา 9 ปี หลังจากที่วานนี้ (26 ต.ค.) นายสุเมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นอภ.โพทะเล ได้มอบหมายให้กำนัน ต.บางคลาน และผู้ใหญ่บ้านตำบลบางคลาน ทั้ง 6 หมู่บ้าน ร่วมประชุมหาทางแก้ไขปัญหาวัดบางคลาน พร้อมกับพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน ผู้นำท้องถิ่น และผู้แทนจากกองบังคับการ ปปป.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยที่ประชุมมีมติแต่งตั้งประชาชนชาวบางคลาน เป็นกรรมการวัด 18 คน ประกอบด้วย กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน 6 คน, และสมาชิกสภาเทศบาล 12 คน ทั้งนี้เพื่อให้มีคนกลางในการแก้ปัญหาดังกล่าว จนกว่าจะคลี่คลายในที่สุด
สำหรับการแต่งตั้งกรรมการวัดชุดนี้ขึ้น เจ้าอาวาสและกลุ่มผู้ประท้วงเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยได้นำปัญหาของกลุ่มผู้ประท้วงมาจำแนกออกเป็น 3 ปัญหา และมอบหมายให้กรรมการ ทั้ง 18 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน มีหน้าที่ในการตรวจสอบกำกับดูแลใน 3 ปัญหา ได้แก่ 1.ปัญหาเรื่องทรัพย์สิน และเงินที่ได้ส่งมอบให้เจ้าอาวาสไปแล้ว ให้ทีมงานทำหน้าที่ตรวจสอบขอข้อมูลจากเจ้าอาวาส พร้อมจัดทำทะเบียนบัญชี ทำความเข้าใจกับประชาชน 2.ปัญหาเรื่องทรัพย์สินของวัดที่ยังไม่มีการส่งมอบ ให้ทีมงานตรวจสอบจัดทำทะเบียนทรัพย์สินของวัด และทำความเข้าใจกับประชาชน และ 3.ปัญหาเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีกับประชาชน ให้ทีมงานรวบรวมข้อมูลคดีความ (ยกเว้นคดีเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินวัด) ส่งให้เจ้าอาวาสเพื่อถอนแจ้งความ คดีใดที่ถอนแจ้งความไม่ได้ เจ้าอาวาสจะใช้วิธีแถลงต่อศาลว่าไม่ติดใจเอาความ เพื่อความสงบเรียบร้อย และขอให้ศาลบรรเทาเรื่องคดีความ
...
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังจากการพูดคุยเจรจาแล้ว ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี ส่วนตนมองว่าปัญหาที่ยืดเยื้อมานานนั้น เป็นเพราะความไม่เข้าใจกันของทุกฝ่าย จำเป็นจะต้องมีคนกลางเข้ามาเป็นกาวใจ เพื่อให้วัดบางคลานเปิดได้ตามปกติ อยากเห็นภาพเหมือนในอดีต ที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ากราบสักการะหลวงพ่อเงิน การท่องเที่ยว รวมถึงการทำมาหากินของชาวบ้าน วัดบางคลานเป็นเหมือนวัดของประเทศ เพราะหลวงพ่อเงินเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นต้องทำให้เกิดความพึงพอใจของทุกฝ่าย และหากปัญหาทุกอย่างคลี่คลายเรียบร้อย จะได้นิมนต์พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน เข้าปฏิบัติศาสนกิจ และดำเนินการนำสรีระของพระครูพิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ไปบำเพ็ญกุศลให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม
ด้าน พระเทพปัญญาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 4 กล่าวว่า ไม่อยากให้ทุกคนยึดติดกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะทุกฝ่ายเพียงต้องการจะปกป้องพระพุทธศาสนา แต่อาจจะมองในมุมต่างกัน ไม่มีปัญหาใดยิ่งใหญ่และรุนแรงเท่าปัญหาความขัดแย้งทางความคิดเห็นกันในทุกด้าน ส่งผลให้เกิดความแตกแยกเป็นฝักฝ่ายอย่างชัดเจน และก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบสุข
"การสมานฉันท์จะเกิดขึ้นเมื่อต่างฝ่ายยอมรับความจริงว่า เป็นความจริง ไม่ถือทิฐิมานะ ไม่อ้างเหตุผลเข้าข้างตัวเอง และไม่ถือประโยชน์ส่วนตนสำคัญกว่าประโยชน์ส่วนรวม การเจรจาในวันนี้ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว.มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย แต่ไม่แสดงความเห็นใดๆ" รองเจ้าคณะภาค 4 กล่าว