น้ำหลากจากสุโขทัยเข้าพิษณุโลกพื้นที่ริมน้ำยมสายเก่า ล้นตลิ่งท่วม อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมือง ล่าสุดหลากลงทุ่งบางระกำโมเดล 224 ล.ลบ.ม. บางจุดล้นตลิ่งและที่ลุ่มข้ามถนนท่วมพื้นที่การเกษตร ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ต้องหนีขึ้นที่สูงแล้ว

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำหลากจาก จ.สุโขทัย เข้าสู่พื้นที่ จ.พิษณุโลก ท่วมแม่น้ำยมสายเก่าในพื้นที่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก จ.สุโขทัย โดยน้ำได้หลากลงทุ่งบางระกำโมเดล 224 ล.ลบ.ม.หรือจำนวน 56% แล้ว บางจุดได้ล้นตลิ่งคันดิน ไหลลงสู่พื้นที่ต่ำข้ามถนนลงสู่พื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะที่หมู่ 12 บ้านใหญ่สำราญ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม เป็นหมู่บ้านที่ติดกับแม่น้ำยมสายเก่า

ล่าสุด วันนี้น้ำเข้ามาท่วมบ้านเรือนหมดแล้ว และได้บ่าข้ามถนนไปยังทุ่งบางระกำโมเดลเหมือนเช่นทุกๆ ปี ซึ่งมีการเตรียมพื้นที่รองรับน้ำไว้ประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ชาวบ้านใช้เรือพลาสติกส่วนตัวขนข้าวของ ผ้าห่ม เสื่อ ที่นอน พัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้า มาไว้บริเวณจุดที่ อบต.ท่าช้าง จัดเตรียมเป็นที่พักชั่วคราวเพื่อรอน้ำลด ซึ่งทาง อบต.จะทำการเพิ่มเต็นท์ให้อีกหลายจุดในวันนี้ โดยชาวบ้านจากด้านในริมตลิ่งแม่น้ำยม ทยอยอพยพออกมาอีกหลายหลังคาเรือน 

...

สำหรับน้ำปีนี้ท่วมล่าช้ากว่าปกติ แต่ก็มาเต็มที่เหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนบ้านที่ยังพออยู่ได้และมีที่สูง บ้างก็นำสัตว์เลี้ยง สิ่งของ หนีน้ำขึ้นสู่ที่สูง ต่างบอกว่าอยากให้ทางการนำสุขาลอยน้ำ หรือสุขาเคลื่อนที่มาให้ประชาชนได้ใช้บรรเทาความเดือดร้อน และจะอดทนอยู่กับภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ต่อไปให้ได้ ท่ามกลางการช่วยเหลือของทางการที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้าน นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Y.14A ลดลงเหลือ 830 ลบ.ม./วินาที ทางโครงการชลประทานสุโขทัย สำนักงานชลประทานที่ 4 ได้ดำเนินบริหารจัดการน้ำโดยระบายน้ำแม่น้ำยมจากทาง ปตร.หาดสะพานจันทร์ ลงสู่พื้นที่ตอนล่าง 4 เส้นทาง โดยระบายลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก ในอัตรา 700 ลบ.ม./วินาที-ลดลง (ไหลผ่าน อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ลงสู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และควบคุมปริมาณน้ำให้ผ่านตัวเมืองสุโขทัย ที่สถานีวัดน้ำ Y.4 ไม่เกิน 500 ลบ.ม./วินาที (ปัจจุบันลดลง 419.60 ลบ.ม./วินาที) ระบายลงสู่แม่น้ำยมสายเก่า-คลองเมม-คลองบางแก้ว ในอัตรา 220 ลบ.ม./วินาที-ลดลง (ไหลผ่าน อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางระกำ) ระบายลงสู่แม่น้ำน่าน ผ่านทางคลองผันน้ำ ยม-น่าน ในอัตรา 130 ลบ.ม./วินาที-ลดลง (ไหลผ่าน อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย และ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์) และระบายลงคลองฝั่งขวาแม่น้ำยม (คลองน้ำโจน) ปริมาณ 10-30 ลบ.ม./วินาที (ไหลผ่าน อ.สวรรคโลก-อ.เมือง จ.สุโขทัย ไปลงสู่แก้มลิงทุ่งทะเลหลวง) 

...

ปัจจุบันปริมาณน้ำแม่น้ำยมตอนบน จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย แนวโน้มลดลง และมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น พื้นที่ตอนล่างในเขต จ.พิษณุโลก และจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่จะระบายลงมา มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจากการคาดการณ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมสายหลักและแม่น้ำยมสายเก่า (คลองเมม-คลองบางแก้ว) จะมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่วันที่ 3-7 ต.ค. 66 ทางจังหวัดพิษณุโลกร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 3 โครงการชลประทานพิษณุโลก ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก และท้องถิ่น ผู้นำในพื้นที่ได้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยมสายหลักและแม่น้ำยมสายเก่า ดังนี้ แม่น้ำยมสายหลักควบคุมน้ำที่ผ่านตัว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ชุมชนที่ระดับน้ำ +39.80 ม.รทก. (ปัจจุบันระดับน้ำ 39.45 ม.รทก. ต่ำกว่า 0.35 ม.) สถานการณ์ปัจจุบัน ในระดับเฝ้าระวัง แม่น้ำยมสายเก่า ควบคุมระดับน้ำที่มาจาก จ.สุโขทัย ผ่านอาคารประตูระบายน้ำต่างๆ ไม่ให้เกินศักยภาพ (ไม่เกิน 250-300 ลบ.ม./วินาที) พร้อมทั้งเสริมคันป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งในจุดเสี่ยง สถานการณ์ปัจจุบันในระดับเฝ้าระวัง 

ผันน้ำเข้าสู่ทุ่งรับน้ำ ตามโครงการบางระกำโมเดล พื้นที่โครงการ 265,000 ไร่ รองรับน้ำสูงสุด 400 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันรับน้ำเข้าพื้นที่แล้ว 152,689 ไร่ (58%) ปริมาณน้ำ 249 ล้าน ลบ.ม. (62%) ควบคุมระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำบางแก้วไม่ให้เกินกว่าระดับ +41.00 ม.รทก. ที่จะกระทบกับชุมชน ปัจจุบันระดับน้ำ +40.46 ม. รทก. อยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวัง โดยผันน้ำจากแม่น้ำยมลงสู่แม่น้ำน่านผ่านทางคลองระบายน้ำ DR-15.8 (ปัจจุบัน ระบาย 86.13 cms) และคลอง DR-2.8 (ปัจจุบัน ระบาย 72.16 cms) ประสานความร่วมมือกับสำนักงานชลประทานที่ 3 ในการลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ (ลดเหลือ 1.36 ล้าน ลบ.ม.) เขื่อนแควน้อย (งดระบายน้ำ) และทดน้ำเหนือเขื่อนนเรศวร ระดับ 47.00 ม.รทก. เพื่อช่วยลดระดับน้ำแม่น้ำน่าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำของแม่น้ำยม 

...

ทั้งนี้ หน่วยงานราชการ ท้องถิ่น ได้บริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับสภาพน้ำในพื้นที่ และเตรียมความพร้อมเครื่องจักร-เครื่องมือ ในการป้องกัน กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เสริมคันดินป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และพร้อมให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัย รวมทั้งให้ทางอำเภอได้ตรวจสอบคันดิน พร้อมเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้เฝ้าระวังติดตามน้ำตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งคลองแม่น้ำยมสายหลัก และแม่น้ำยมสายเก่า (คลองเมม-คลองบางแก้ว), คลองน้ำไหล พื้นที่ อ.พรหมพิราม อ.เมือง อ.บางระกำ เตรียมการขนของและสัตว์เลี้ยงไว้ในที่สูง และระมัดระวังระบบไฟฟ้าที่อยู่พื้นที่ต่ำ เพื่อป้องกันภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง 

พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับให้กรมชลประทานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ กรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องรายงานสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในระยะนี้ยังคงมีฝนตกหนักในหลายจังหวัด พร้อมให้ตรวจสอบความมั่นคงของพนังกั้นน้ำ อาคารชลประทาน ให้มีความพร้อมใช้งานได้ตลอดช่วงฤดูน้ำหลากนี้ รวมถึงให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่รับทราบสถานการณ์น้ำล่วงหน้า และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ให้ได้มากที่สุด จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ.

...