ผบช.ก.แถลงผลงานกองปราบทลายแก๊งลักลอบขุดโบราณวัตถุขายในโซเชียล ยึดของกลางนับพันชิ้น หลังได้เบาะแสจากกลุ่มผู้อนุรักษ์วางแผนล่อซื้อรูปปั้นวัวสัมฤทธิ์โบราณอายุกว่า 1,600 ปี และรูปปั้นช้างสัมฤทธิ์มีแท่นตราประทับสร้างราวพุทธศตวรรษที่ 21 พอได้ของส่งตรวจศิลปากรพบเป็นโบราณวัตถุจริง ก่อนลุยค้น 9 จุด 4 จังหวัดภาคเหนือ จับกุมแก๊งขุดสมบัติชาติ 3 คน โดย 2 ใน 3 รับสารภาพอ้างไม่รู้ผิดกฎหมาย แฉแต่ละครั้งที่ออกล่าสมบัติจะถ่ายคลิปสร้างคอนเทนต์ในโลกโซเชียลด้วย เผยยอดเงินหมุนเวียนกลุ่มผู้ต้องหา 3 ปีที่ผ่านมาร่วม 10 ล้านบาท
กองปราบฯจับแก๊งลักลอบขุดโบราณวัตถุถ่ายคลิปสร้างคอนเทนต์ขายในโซเชียล เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. ร่วมกับนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม นายมนตรี ธนภัทรพรชัย ผู้อำนวยการกลุ่มงานโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย และนายชินณวุฒิ วิลยาลัย ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากร ร่วมแถลงผล จับกุมแก๊งนักล่าสมบัติโบราณโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก หลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ใน จ.เชียงใหม่, พะเยา, สุโขทัย และลำปาง
ปฏิบัติการดังกล่าวจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายทศพร เริ่มจำ อายุ 26 ปี นายทศพล เริ่มจำอายุ 19 ปี 2 พี่น้อง และนายศรีออน จันทนา อายุ 46 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “เบียดบังเอา โบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุนั้นไปเป็นของตนโดยมิชอบ ด้วยกฎหมายและจำหน่าย เอาไปเสียซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุโดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลางเครื่องสแกนโลหะ 11 เครื่อง อุปกรณ์การขุดโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ 970 ชิ้น สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม
...
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ป. รับแจ้งเบาะแสจากกลุ่มผู้อนุรักษ์โบราณ วัตถุว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบขุดโบราณวัตถุศิลปวัตถุ นำไปโพสต์ขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้ประสาน ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรร่วมกันสืบสวนและวางแผนติดต่อล่อซื้อรูปปั้นวัวและช้างโบราณ 2 ชิ้นในราคา 4 พันบาท เมื่อได้รับสิ่งของทั้ง 2 อย่างมาแล้ว นำส่งตรวจพิสูจน์ที่สำนักศิลปากร กรมศิลปากร พบเป็น โบราณวัตถุจริง โดยรูปปั้นแกะสลักวัวสัมฤทธิ์โบราณอายุประมาณ 1,600 ปี หรืออยู่ในยุคสมัยทวารวดีส่วนรูปปั้นช้างสัมฤทธิ์มีแท่นตราประทับสร้างขึ้นราว พุทธศตวรรษที่ 21 หรือประมาณปี พ.ศ.2001- 2100
พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. กล่าวว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะเริ่มจากการตั้งกลุ่มออกตระเวนขุดโบราณวัตถุตามโบราณสถานต่างๆ หรือดำน้ำงมหา สิ่งของริมแม่น้ำใหญ่ๆใน จ.พะเยา สุโขทัย ลำปาง ราชบุรี ระหว่างที่ออกไปขุดหรือดำน้ำงมหาของมีค่าจะถ่ายทำเป็นคลิปวิดีโอลักษณะการสร้าง คอนเทนต์นำไปโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆเพื่อดึงดูดผู้ที่สนใจ เมื่อได้โบราณวัตถุมาจะนำไปโพสต์ประกาศขายเพจเฟซบุ๊ก หรือนำไปขายตามร้านรับซื้อ วัตถุโบราณต่างๆใน จ.เชียงใหม่ รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับพร้อมหมายค้น จนนำมาสู่ การเปิดปฏิบัติการจับกุมตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าว
ผกก.4.บก.ป. กล่าวต่อว่า สอบสวนนายทศพรกับนายทศพล 2 พี่น้องรับสารภาพว่า ทำมานานหลายปีแล้ว เพราะไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย เงินที่ได้ นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนนายศรีออนให้การ ปฏิเสธ ในส่วนนี้ไม่หนักใจอะไรเพราะมั่นใจในพยาน หลักฐาน อีกทั้งจากการตรวจสอบบัญชีธนาคารผู้ต้องหา ทั้งหมดพบมีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 200,000 บาท เฉพาะในช่วงเวลา 3 ปี มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชี กว่า 10 ล้านบาท นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. ดำเนินคดีพร้อมขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรม ศิลปากร กล่าวว่า กรณีผู้พบเจอสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ ขอให้นำส่งกรมศิลปากรตรวจสอบไม่ควรยึดถือไว้เป็นของตนเอง เพราะมีความผิดตาม กฎหมาย หากส่งคืนจะมีเงินรางวัลมอบให้บางส่วนด้วย สำหรับของกลางโบราณวัตถุที่พบครั้งนี้ มี 2 ชิ้น ที่เป็น รูปปั้นวัว-ช้างสัมฤทธิ์ พบมีอายุมากถึง 1,600 ปี บ่งบอก ถึงความสัมพันธ์ทางการค้าตั้งแต่โบราณ หาก สิ่งของเหล่านี้หลุดรอด หรือสูญหายไปจากประเทศจะต้องสูญเสียหลักฐานสำคัญของชาติที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้อีกด้วย