ระทึกกลางเมืองอุตรดิตถ์ คนร้ายแย่งปืนตำรวจจราจรกลางสี่แยกเอาไปจี้ชิงรถ จยย.ชาวบ้านซิ่งหนีเอารถไปจอดทิ้งในวัดก่อนให้พรรคพวกมารับพาเผ่นต่อ ตำรวจวิทยุสกัดจับวุ่นทั่วเมืองยังไม่พบตัว ตำรวจจราจรเผยเห็นผู้ต้องสงสัยขี่รถ จยย.ท่อดังแถมไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เรียกตรวจค้นกลับบิดคันเร่งหนี สุดท้ายมาเสียหลักล้มที่สี่แยก โดดเข้ากอดรัดจะจับกุมดันพลาดท่าถูกแย่งปืนจากเอวเอาไปจี้ชิงรถ จยย.ชาวบ้านที่จอดติดไฟแดงอยู่ เช็กประวัติมีหมายจับคดีค้ายาเสพติด 2 หมาย ผบก.ภ.จ.อุตรดิตถ์สั่งระดมไล่ล่าสกัดกั้นหวั่นเผ่นออกชายแดน เชื่อยังกบดานในพื้นที่

เหตุการณ์ระทึกขวัญ คนร้ายแย่งปืนตำรวจไปจี้ชิงรถ จยย.ชาวบ้านเผ่นหนีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 ส.ค. พ.ต.ท.นฤพล คนชม สว. (สอบสวน) สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีตำรวจจราจรถูกคนร้ายแย่งปืนเอาไปจี้ชิงรถ จยย. ของชาวบ้าน บริเวณสี่แยกบ้านเกาะ เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ รายงานให้ พ.ต.อ.สมเกษม จารักษ์ ผกก. นำกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวน ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดงใกล้จุดตัดทางรถไฟมีรถราสัญจรหนาแน่น ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์พากันตื่นตระหนกมายืนมุงดูจำนวนมาก พบรถ จยย.ฮอนด้าเอ็มเอสเอ็กซ์ 125 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของคนร้ายล้มอยู่ กับรถ จยย.สายตรวจจราจร สภ.เมืองอุตรดิตถ์ มี จ.ส.ต.ชิติพัทร์ กันนํ้าอ่าง อายุ 31 ปี ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ มีแผลถลอกที่แขนซ้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการต่อสู้กับคนร้าย และนายสมพร พลประถม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ 7 ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ชาวบ้านที่ถูกคนร้ายชิงเอารถ จยย.ไป รอให้รายละเอียดกับตำรวจ

ในที่เกิดเหตุยังพบกระเป๋าสะพายของคนร้ายที่ทำตกไว้ ภายในมีกระเป๋าสตางค์พร้อมเอกสารบัตรประชาชน ระบุชื่อนายพิษณุปัญญา เต๊ปปิ่น อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/3 หมู่ 5 ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ตำรวจเช็กประวัติพบว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ 2 หมายที่ จ.129/ 2565 และ จ.16/2565 คดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน ในพื้นที่ สภ.ท่าปลา และ สภ.ลับแล ส่วนรถ จยย.ที่ชิงจากชาวบ้านไปเป็นฮอนด้าดรีมสีขาว ทะเบียน 1 กค 7129 อุตรดิตถ์ ตำรวจวิทยุสกัดจับทั่วเมืองพร้อมกระจายกำลังออกติดตามไล่ล่า แต่ยังไม่พบ

...

สอบถาม จ.ส.ต.ชิติพัทร์ กันนํ้าอ่าง ตำรวจจราจร สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะขี่รถ จยย.สายตรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่บนถนนบรมอาสน์ หน้าห้างแม็คโคร เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ พบชายต้องสงสัยขี่รถ จยย.ดัดแปลงสภาพ ท่อไอเสียดัง และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เมื่อเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ แต่ชายคนดังกล่าวเร่งเครื่องหลบหนี จึงไล่ติดตามมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุเป็นสัญญาณไฟแดงมีรถจอดติดอยู่ รถคนร้ายเสียหลักล้ม ตนรีบจอดรถปรี่เข้าไปกระชากตัวจะจับกุม แต่คนร้ายขัดขืนต่อสู้ฉวยจังหวะชุลมุนยื้อแย่งปืนพกประจำกาย ยี่ห้อซิกซาวเออร์ รุ่นพี 230 สีดำ ขนาด 9 มม. พร้อมซองแมกกาซีนบรรจุกระสุน 5 นัด แล้ววิ่งไปจี้ชิงรถ จยย.ของนายสมพร ที่จอดติดไฟแดงอยู่ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว รีบวิทยุแจ้ง 191 ขอกำลังตำรวจมาสนับสนุนติดตามไล่ล่าคนร้าย

ด้านนายสมพร พลประถม อายุ 55 ปี เจ้าของรถ จยย.ที่ถูกคนร้ายจี้ชิงไปเผยว่า หลังเลิกงานขี่รถ จยย.ขนเครื่องออกกำลังกายมุ่งหน้ากลับบ้านมาจอดติดไฟแดงที่สี่แยก คนร้ายเอาปืนจี้บังคับพูดจาข่มขู่ว่า “มึงลงมาจากรถไป อยากตายเหรอ” ด้วยความกลัวรีบลงจากรถแล้วคนร้ายชิงเอารถ จยย.ของตนขี่หลบหนีไป ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นใดๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค. ตำรวจรับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบรถ จยย.ต้องสงสัยเป็นรถที่คนร้ายชิงไป จอดทิ้งไว้ภายในบริเวณวัดธรรมาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ห่างจากสี่แยกที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.เศษ ไปตรวจสอบพบรถ จยย.ฮอนด้าดรีม สีขาว ทะเบียน 1 กค 7129 อุตรดิตถ์ ของนายสมพรที่ถูกจี้ชิงไป จอดอยู่ใต้ต้นไม้หน้ากุฏิ ตำรวจนำรถกลับไปไว้ที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ พฐ.มาเก็บรอยนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน

จากการประมวลเหตุการณ์สันนิษฐานว่า ตอนที่นายพิษณุปัญญา คนร้ายที่ก่อเหตุถูกตำรวจจราจรเรียกตรวจค้นเนื่องจากรถ จยย.ดัดแปลงสภาพท่อดังและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตัวเองรู้ตัวว่ามีหมายจับติดตัวคดียาเสพติด หรืออาจเพิ่งเสพยาบ้ามา กลัวถูกจับเลยขี่รถหนีไปเสียหลักล้มที่สี่แยก พอตำรวจจะเข้าจับกุมก็ดิ้นรนต่อสู้ขัดขืนแย่งปืนได้เอาไปจี้ชิงรถ จยย.ชาวบ้านหลบหนี เอารถไปจอดทิ้งในวัดก่อนเผ่นหนีไปได้ พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปยื่นต่อศาลอนุมัติออกหมายจับข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน ขณะที่ฝ่ายสืบสวนไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพร้อมกระจายกำลังออกหาเบาะแสไล่ล่าคนร้ายอย่างเร่งด่วนแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จ.อุตรดิตถ์ กล่าวภายหลังเรียกประชุมชุดสืบสวนวางแนวทางการตามล่าตัวคนร้ายว่า นอกจากตั้งจุดตรวจคุมเข้มทุกเส้นทางแล้ว ยังเน้นสกัดกั้นตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-สปป.ลาว ช่องทางธรรมชาติ อ.บ้านโคก จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเชื่อว่าคนร้ายยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่กดดันทุกวิธีการเพื่อให้มอบตัว กำชับตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายมีปืนที่ชิงไป คาดจะได้ตัวในเร็ววันนี้ ส่วนรถ จยย.ที่คนร้ายชิงไปจากชาวบ้านนำไปจอดในวัด สอบถามพระสงฆ์ในวัดให้ข้อมูลว่า พบรถ จยย.คันดังกล่าวเข้ามาจอดช่วงเย็นวันที่ 25 ส.ค. ขณะกวาดลานวัดอยู่ไม่ได้เอะใจสงสัยอะไรเพราะปกติจะมีญาติโยมนำรถเข้ามาจอดในวัดเป็นประจำ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะนัดหมายให้พรรคพวกมารับพาหลบหนี