เหมือนจะจบแต่ไม่จบ ความขัดแย้งในวัดบางคลาน 9 ปี บิ๊กโจ๊ก นำฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งโต๊ะเคลียร์ทรัพย์สินตามคำพิพากษาศาล พบอยู่ครบ 161 รายการ แต่เจ้าอาวาสองค์ใหม่ยังเข้าวัดปฏิบัติศาสนกิจไม่ได้ ชาวบ้านฝ่ายต่อต้านปักหลักนั่งเฝ้าปะตูวัด อ้างเกรงจะมีการโยกย้ายเอกสารและทรัพย์สินออกจากกุฏิ

กรณีเมื่อ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะกรรมการจากส่วนกลาง ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมบังคับคดี ผอ.กองบังคับคดีล้มละลาย ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางกลับจากการเข้าร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยานในการบังคับคดี ตามคำสั่งศาลฎีกา ให้ฝ่ายจำเลย พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้วกับพวก มอบทรัพย์สิน จำนวน 161 รายการให้กับทางฝ่ายโจทก์ คือพระครูพิสุทธิวรากรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ที่เป็นปัญหาขัดแย้งกันมาเป็นเวลาหลายปี เพราะทางฝ่ายชาวบ้านที่ต่อต้านพระครูพิสุทธิวรากรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน รวมตัวกันปักหลักเปลี่ยนเวรมานอนเฝ้ากุฏิไม้ ที่มีทรัพย์สินเป็นโบราณวัตถุ และพระบูชา ตลอดจนทรัพย์สินอื่น โดยไม่ยอมส่งมอบทรัพย์สินที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาดังกล่าว จนกระทั่ง "บิ๊กโจ๊ก" และคณะกรรมการจากส่วนกลางลงมาแก้ปัญหา โดยผลการตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่าทรัพย์สิน จำนวน 161 รายการ อยู่ครบ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามรับทราบ 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายชาวบ้านยังข้องใจเรื่องสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในกุฏิเจ้าอาวาสและโบสถ์เก่า รวมทั้งในพิพิธภัณฑ์นครไชยบวร ทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” นำตัวแทนแต่ละฝ่ายเข้าไปตรวจสอบ และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานและจะทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกรณีที่ชาวบ้านจะขอเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสนั้น “บิ๊กโจ๊ก” จะนำปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ไม่ต้องการเจ้าอาวาสรูปนี้เสนอไปให้ทาง ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอคณะสงฆ์เพื่อดำเนินการต่อไป และขอร้องประชาชนว่าต้องยอมให้ เจ้าอาวาสมาจำวัด โดยทางชาวบ้านที่ต่อต้านยินยอมแต่ขอให้ทางฝั่งชาวบ้านมาอยู่เฝ้าทรัพย์สินวัน 10 คน โดยมีตำรวจมาอยู่ดูรักษาความสงบตลอด 24 ชม. ข้อเสนอเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝั่ง 

...

หลังจากคณะ "บิ๊กโจ๊ก" เดินทางกลับ ฝ่ายพระครูพิสุทธิวรากรณ์ เจ้าอาวาส กับคณะจะเข้าไปในกุฏิ แต่ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก เพราะชาวบ้านฝ่ายต่อต้านไม่ยอมให้เจ้าอาวาสเข้าไปในกุฏิในวันนี้ เพราะเกรงว่าจะโยกย้ายเอกสารและทรัพย์สินออกจากกุฏิ ทำให้ตำรวจต้องระงับเหตุ และกันคณะเจ้าอาวาสออกจากวัดไปโดยไม่มีเหตุการณ์บานปลาย โดยที่พระครูพิสุทธิวรากรณ์ เจ้าอาวาสวัดบางคลาน และคณะเดินทางกลับไปจำพรรษาที่วัดหนองดง อ.โพทะเล ที่ก่อนหน้าเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองดงมาก่อน 

ล่าสุด เวลา 13.30 น. วันที่ 23 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดหิรัญญาราม หรือบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล พบว่าประตูทุกด้านของวัดเปิดทุกด้าน มีประชาชนที่เป็นฝ่ายต่อต้านเจ้าอาวาสมานั่งปักหลักสังเกตการณ์ผู้คนเข้าออกบริเวณประตูด้านหน้าประมาณ 30 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.ศุภากรณ์ บุญคง ผกก.สภ.โพทะเล พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประพาส อินถาม รอง ผกก.(สอบสวน) และ พ.ต.ท.ศักดิ์สุธีร์ คำมูล รอง ผกก.ป. นำกำลังประมาณ 10 นาย ออกตรวจสอบความเรียบร้อยภายในบริเวณวิหารหลวงพ่อเงิน มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อกราบไหว้รูปหล่อหลวงพ่อเงินและทำบุญ สังฆทาน กับพระสงฆ์ ในวิหารวัดบางคลาน ตามปกติ แต่ไม่คึกคักเหมือนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

ร.ต.อ.สมเจตน์ ปูทอง หน.สายตรวจ ต.บางคลาน เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งให้มาดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณวัด และให้รายงานเหตุการณ์ให้ ผกก.สภ.โพทะเล ทราบ ทุก 3 ชั่วโมงตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงวันนี้ยังไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ เกิดขึ้นเหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อโซเชียลไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ทำขึ้น

ด้าน พระครูพิสุทธิวรากรณ์ เจ้าอาวาสวัดบางคลาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เข้ามาปฏิบัติศาสนกิจในฐานะเจ้าอาวาสวัดบางคลานได้ เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา หลังจาก "บิ๊กโจ๊ก" และคณะเดินทางกลับเกิดความวุ่นวาย ทำให้ พระครูพิสุทธิวรากรณ์ ยังต้องไปจำพรรษา ที่วัดหนองดง ต.ท่าเสา ซึ่งตนเคยเป็นอดีตเจ้าอาวาส ก่อนที่จะมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ที่เกิดปัญหาความขัดแย้งมาเป็นเวลา 9 ปี จนถึง ปัจจุบัน

สำหรับความขัดแย้งของวัดบางคลาน เกิดมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 9 ปี หลังจากที่พระครูพิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสรูปเดิม (มรณภาพแล้ว) ถูกพระราชสิทธิเวที เจ้าคณะ จ.พิจิตร ปลดจากตำแหน่ง เพราะถูกร้องเรียนว่าหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่และแต่งตั้ง พระครูพิสุทธิวรากรณ์ เจ้าอาวาสวัดหนองดง ต.ท่าเสา อ.โพทะเล มาเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ทำให้ชาวบ้านที่ศรัทธา พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสไม่พอใจ และต่อต้านมาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันไปมานับร้อยคดี จน "บิ๊กโจ๊ก" ต้องลงมาแก้ปัญหาดังกล่าว