สธ.เชียงใหม่ เผย เชียงใหม่ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร ขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยระดับประเทศเพิ่มสูงขึ้น 2.3 เท่า จึงขอเตือนกลุ่มเสี่ยง "ชายรักชาย" ให้เฝ้าระวังและป้องกันตนเอง
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 66 ที่ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ ถึงสถานการณ์ "โรคฝีดาษวานร" หรือ "MPOX" ในประเทศไทย ว่าในเดือนมิถุนายน 2566 มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 48 ราย หรือ 2.3 เท่า ทำให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 98 ราย โดยพบมากในกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการซื้อ-ขาย บริการทางเพศ และกิจกรรมเฉพาะสำหรับคนกลุ่มนี้ โดยอาการแรกเริ่ม คือ จะมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส จนถึงมีตุ่มพุพอง ซึ่งการระบาดในรอบนี้ตุ่มจะขึ้นบริเวณรอบอวัยวะเพศและทวารหนัก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่พบการระบาดของโรคฝีดาษวานร และได้มีการเฝ้าระวัง "โรคฝีดาษวานร" อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในกลุ่มนักเที่ยว ตามสถานบันเทิงชายรักชาย โดยดำเนินการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ใช้บริการ ให้ความรู้เกี่ยวกับโรค การป้องกันตนเอง รวมถึงการคัดกรองก่อนเข้ารับบริการ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิ และการตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง
...

ทั้งนี้ โรคฝีดาษวานร ติดต่อได้ยากกว่าโควิด-19 เพราะต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากๆ อาการไม่รุนแรง หายเองได้ใน 2-4 สัปดาห์ แต่หากพบว่าตัวเองมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส มีผื่น และต่อมน้ำเหลืองโต ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาและป้องกันการแพร่เชื้อ ส่วนผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2523 และได้ฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษวานรแล้ว พบว่า สามารถป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ถึงร้อยละ 85.
