ระทึก "เจดีย์วัดเวียง" แตกร้าวและทรุดตัว "กรมศิลปากรเชียงใหม่" รุดตรวจสอบเพื่อเร่งหาแนวทางป้องกัน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจถึงขั้นถล่ม ด้านเจ้าอาวาสวัดเวียงย้ำต้องซ่อมแซมบูรณะครั้งใหญ่ เพราะเข้าสู่ฤดูฝน หวั่นพระธาตุถล่ม ซึ่งเป็นความเชื่อคนในท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พบรอยแตกร้าว องค์เจดีย์ หรือพระธาตุวัดเวียง หมู่ที่ 2 บ้านเวียง ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง โดยนายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ พร้อมคณะร่วมกับพระครูจันทธรรมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดเวียง เบื้องต้นพบรอยแตกร้าวของเจดีย์เพิ่ม เสาเหล็กที่ค้ำยันไว้รับน้ำหนักมากจนจนส่วนพื้นของที่ตั้งฐานเสาแตก และมีการเอียงตัวขององค์จดีย์อย่างชัดเจน

ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จะสังเกตเห็นว่ามุมของพระธาตุด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีรอยแตกร้าวใหม่ ซึ่งเกิดจากการเอียงตัวฝั่งเดียวเพราะฐานของเหล็กค้ำยันเดิมมีแรงกดทับทำให้พื้นส่วนที่ตั้งวางฐานเสาแตก และและสังเกตว่าเจดีย์มีการเอียงอย่างชัดเจน และมีความเป็นไปได้หากไม่ทำอะไรเลยก็อาจจะถล่มลงมา เนื่องจากเจดีย์มีอายุมาก และประกอบกับอำเภอเถินมีปัจจัยร่วมหลายอย่าง อาทิ พายุฤดูร้อน พายุในฤดูฝน และมีรอยเลื่อนเถิน อย่างไรก็ตามการประเมินผลและผลสำรวจในวันนี้จะได้นำข้อมูลไปวิเคราะห์และวางแผนโครงการเพื่อตั้งงบประมาณ และหาแนวทางการป้องกัน การอนุรักษ์โบราณสถานหลายจุดภายในวัด เบื้องต้นได้ให้ทางวัดทำแนวเขตกั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้พื้นที่บริเวณเจดีย์รัศมี 5 เมตรเพื่อความปลอดภัย

...

ด้านพระครูจันทธรรมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดเวียง เปิดเผยว่า หลังจากฟังผลการสรุปจากเจ้าหน้าที่ สศก.ที่ 7 เชียงใหม่แล้ว มีความกังวลมากเพระเกรงว่าพระธาตุถล่มลงมาในเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ส่วนตัวก็ยอมรับว่าหวั่นใจในเรื่องของความเชื่อคนในท้องถิ่นที่อาจจะมองไปต่างๆ นานา ซึ่งทางวัดและคนในท้องถิ่นเองก็อยากให้เจดีย์อยู่คู่กับวัดตลอดไป และหากจำเป็นต้องเปิดเปลือกเพื่อซ่อมแซมบูรณะพระธาตุครั้งใหญ่ ก็จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาคณะกรรมการวัดในสัปดาห์หน้า

สำหรับประวัติของวัดเวียงมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การก่อตั้งเมืองเถิน ซึ่งในอดีตวัดเวียงถือว่าเป็นวัดที่ในอดีตเจ้าเมืองผู้ครองเมืองเถินได้อุปถัมภ์ โดยมีตำนานกล่าวถึงการบรรจุภายในพระธาตุเป็นเล็บมือขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุอยู่ในองค์เจดีย์ ซึ่งที่ผ่านมาในอดีตมีการบูรณปฏิสังขรณ์เพื่อให้เป็นศาสนสถานและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองเถิน และในอดีตเมื่อปี พ.ศ.1157 เจ้าดาวแก้วไข่ฟ้า เจ้าเมืองเถินสมัยนั้นยังเคยสร้างอุโบสถขึ้น โดยมี นางจำปาเทวี หรือพระนางจามเทวี พระสหายของเจ้าเมือง ได้ช่วยกันก่อสร้าง ซึ่งตามตำนานเล่าว่า พระนางจามเทวี ได้ปลูกต้นขนุนขึ้นเพื่อเป็นหลักเมืองภายในวัด เรียกว่า ขนุนนางจามเทวี ซึ่งตามตำนานมีอยู่เพียง 3 ต้น คือ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ วัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง และที่วัดเวียง อ.เถิน จ.ลำปาง.