หนุ่มใหญ่ชาว อ.วัดโบสถ์ พิษณุโลก ใช้ปืนสงครามบุกยิงเพื่อนดับคาบ้าน 2 ศพ จ่อยิงต่อหน้าเมียที่ร้องขอชีวิตผัว โดยบอกว่ามือปืนบุกมายิงสามีด้วยเรื่องชู้สาว หาว่าไปมีอะไรกับเมียเขา ขณะตำรวจตั้งปมขัดแย้งธุรกิจสีเทาที่คนตายมีเอี่ยวอยู่ด้วย
จากเหตุการ์ณ์เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 7 มิ.ย. 66 ร.ต.อ.พีรพันธ์ กันหมุด รอง สว.(สอบสวน) สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 คน ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 5 บ้านหนองกระบาก ต.คันโช้ง ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนาจ เมฆสิน รอง ผกก.ป.รรท.ผกก. พ.ต.ท.โกศล สวัสดิเทพ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นฤนาจ บุญจวง รอง ผกก.(สอบสวน) พร้อมชุดสืบสวน ตำรวจกลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลวัดโบสถ์ และหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน
พบศพ นายแวง จันทะคุณ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้านถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามกระสุนขนาด 5.56 มม. ที่บริเวณหน้าอกทะลุหลัง จำนวน 1 นัด และ นายมนู จันทะคุณ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ที่ 6 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ญาติ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระสุนขนาดเดียวกันเข้าที่บริเวณริมฝีปากข้างซ้าย จำนวน 1 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนจำนวน 3 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัด
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รอง ผบช.ภ.6 และ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปติดตามคดี ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และชุดสืบสวน สภ.วัดโบสถ์ ลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านพักของ นายบาดิน พาพิมพ์ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก โดย พ.ต.ต.ธวัช ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจมุ่งประเด็นไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องชู้สาว และเรื่องปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา โดยก่อนหน้านี้นายบาดินผู้ต้องหาเคยถูกจำคุกในคดีมีอาวุธปืนเถื่อนไว้ในความครอบครอง ก่อนพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ และเมื่อปี 2562 เคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ตำรวจไม่มีหลักฐานทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีได้ หลังพ้นโทษมา จากการสืบสวนทราบว่านายบาดินมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา (ค้ายาบ้า) โดยนายแวงและนายมนูซึ่งไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรอยู่ในเครือข่ายธุรกิจสีเทาของนายบาดินด้วย อีกทั้งในที่เกิดเหตุตำรวจยังพบยาบ้าตกหล่นอยู่กับพื้นถนนหน้าบ้านจำนวน 3 เม็ด ทำให้ต้องตั้งประเด็นการก่อเหตุไว้ทั้งสองประเด็นก่อน
...
ด้าน นางสายทิพย์ ชูพงษ์ อายุ 55 ปี ภรรยาของนายแวงผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุสามีตนกินข้าวเสร็จแล้วนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ส่วนตนอยู่ในห้องโถงมองเห็นนายบาดิน ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้าน มีลักษณะน่าสงสัย เพราะดับเครื่องปล่อยให้รถไหลมา ตนรู้สึกไม่ดี เพราะเคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อนายบาดินมาถึง สามีตนได้บอกว่าใจเย็นๆ นายบาดินก็พูดว่ากูจะกระทืบมึง เพราะไปยิงปืนใส่บ้านกูทำไม สามีตนจึงบอกว่ากูไม่มีปืน จะยิงปืนใส่บ้านมึงทำไม ตนได้พูดย้ำกับนายบาดินว่าสามีไม่มีปืนจริงๆ แต่นายบาดินบอกให้ตนหลบไปไม่อย่างนั้นจะยิงตน จากนั้นได้หันปืนไปหาทั้ง 2 คน บอกให้นั่งตรงกำแพงบ้าน ตนพูดตลอดว่ามีอะไรค่อยๆ คุยกัน ที่กล่าวหาว่าสามีตนไปมีอะไรกับเมียนายบาดินนั้นไม่เป็นความจริงไม่มีมูลเลย สามีบอกให้ตนถอยออกไป และบอกว่าถึงยังไงก็เป็นเพื่อนกันคงพูดกันรู้เรื่อง พอพูดจบนายบาดินก็ยิงนายแวงและนายมนูจนล้มลงนอนหงายเสียชีวิต ตนวิ่งเข้าไปกอดสามีเอาไว้ นายบาดินยังจ่อยิงใส่อีก 2 นัด โดยนัดที่ 3 ไม่โดนใคร แต่นัดที่ 4 กระสุนด้าน จากนั้นนายบาดินก็ขี่รถหลบหนีไป
ด้านนายไม พาพิมพ์ อายุ 66 ปี พ่อนายบาดิน ผู้ต้องหา เผยว่า ตนบอกลูกชายไปแล้วให้มามอบตัว ถ้าหากต่อสู้ก็ให้จัดการไปเลย ม้วนรวมกันไป 2 ให้ก็เป็น 3 ไปเลย จากใจพ่อพูดจริงๆ ไม่ได้เข้าข้างลูกผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนเสพยานั้นรู้ว่าเสพ แต่ไม่ทำให้พ่อเห็น ตอนพ่อยังมีชีวิตอยู่บอกห้ามเลย พ่อขอร้อง สำหรับนายแวงผู้ตายกับนายบาดินลูกชายเป็นเพื่อนรักอยู่ด้วยกันมาตลอด ส่วนจะไปขัดใจเรื่องอะไรไม่รู้ เรื่องชู้สาวตนไม่ขอสันนิษฐาน เพราะไม่รู้ ส่วนจะไปขัดเรื่องยาเสพติดคงไม่มีขัดกัน ตนต้องขอโทษจากใจ พ่อแม่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่มันเกิดมาแล้วต้องให้เขารับผิดไป ตอนนี้อยากให้มอบตัว ยังไงอยากให้ติดต่อมาหาตนก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่า ตำรวจชุดสืบสวนคาดว่าอาวุธปืนที่นายบาดินใช้เป็นอาวุธสังหารโหดครั้งนี้น่าจะเป็นอาวุธปืนกลมือแบบ เอ็มพี 5