สาวมาเลเซียบินมาไทย หายตัวปริศนาที่แม่สาย ครอบครัวเป็นห่วงติดต่อไม่ได้ หวั่นถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ ล่าสุดแม่-พี่ชาย-เพื่อนๆ บินถึงเชียงใหม่แล้ว เตรียมนั่งรถต่อไปแม่สายพรุ่งนี้ ประสาน จนท.ช่วยพาตัวกลับบ้าน ด้านตำรวจแกะรอยพบเจ้าตัวลักลอบข้ามฝั่ง โผล่ทำงานท่าขี้เหล็ก-อัดคลิปบอกปลอดภัยดี
จากกรณีที่ นาง Caiyun อายุ 51 ปี ชาวจีนมาเลเซีย โพสต์ผ่านโซเชียลให้ช่วยตามหา น.ส.Angie Chong Sumyee หรือ "แองจี้" ลูกสาว ที่นั่งเครื่องบินจากประเทศมาเลเซียมาลงที่ จ.เชียงใหม่ จากนั้นนั่งรถต่อไปที่ อ.แม่สาย เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หน้าด่านพรมแดน คืนวันที่ 29 พ.ค.66 จากนั้นรุ่งเช้าวันที่ 30 พ.ค.66 มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินทางมารับ น.ส.แองจี้ ที่หน้าโรงแรม โดยไม่มีท่าทีขู่เข็ญ บังคับ หรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด จากนั้นทางครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อ น.ส.แองจี้ ได้อีกเลย ทำให้ นาง Caiyun ผู้เป็นแม่ ร้อนใจมาก เกรงว่าลูกสาวจะตกอยู่ในอันตราย ถูกบังคับอุ้มไปเรียกค่าไถ่ จึงให้ นางยุพิน ซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่ จ.เชียงราย เดินทางไปแจ้งความคนหายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อหวังให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามหาตัว น.ส.แองจี้ เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.66 ที่สนามบินจังหวัดเชียงใหม่ นาง Caiyun พร้อมลูกชาย และเพื่อนๆ ที่ทำงานของ น.ส.แองจี้ รวม 4 คน ได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย โดยมีล่ามคนไทยพร้อมตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไปคอยรับและทำการสอบปากคำถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าทางครอบครัวเป็นห่วง น.ส.แองจี้ มาก จึงพากันนั่งเครื่องบินจากมาเลเซีย และจะต่อรถยนต์ไปที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในเช้าวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ตม.แม่สาย และชุดประสานงานท้องถิ่นชายแดนไทย-เมียนมา (ทีบีซี)
...
ด้าน พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย ภายหลังได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ได้สั่งชุดสืบสวนออกติดตามเบาะแส ซึ่งกล้องวงจรปิดของโรงแรมที่ น.ส.แองจี้ พักก่อนหายตัวไปนั้น สามารถจับภาพ น.ส.แองจี้ ออกจากห้องนอนมานั่งพักผ่อนที่ล็อบบี้ จากนั้นเดินออกไปที่หน้าโรงแรม เพื่อพบกับหญิงสาวที่มารับ และเดินกลับเข้ามาเอากระเป๋าในโรงแรม ก่อนเดินทางออกไปด้วยกัน มุ่งหน้าไปยังที่ท่าน้ำเกาะทราย ต.แม่สาย เพื่อลักลอบข้ามแม่น้ำสายไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ในช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค.66 และทำการเปลี่ยนซิมโทรศัพท์มือถือเป็นของเมียนมา จึงทำให้ครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้
ล่าสุดวันเดียวกัน ตำรวจ สภ.แม่สาย ได้รับรายงานว่า มีคลิปวิดีโอของ น.ส.แองจี้ ออกมาพูดเป็นภาษาจีน 2 คลิป โดยคลิปแรกมีความยาว 22 วินาที แปลได้ว่า "ตอนนี้ฉันทำงานอยู่ และมีความปลอดภัยดีมาก ขอความกรุณาอย่าไปจับคนขับรถ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด" และคลิปที่ 2 ความยาวเพียง 3 วินาที เป็นภาพแสดงว่า เจ้าตัวกำลังทำงานอยู่ที่ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า ฝั่งท่าขี้เหล็ก ด้วยความสบายใจ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นคลิปดังกล่าว ได้ออกติดตามเกาะรอยสืบสวนจนคาดว่าสถานที่อัดคลิปดังกล่าว น่าจะอยู่ที่โรงแรมโกลเดนเกต ใกล้สนามบินท่าขี้เหล็ก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเปิดเผยว่า น.ส.แองจี้ ได้วีซ่าจากมาเลเซียเข้าไทยแบบนักท่องเที่ยว แต่เวลาข้ามไปเมียนมานั้น เป็นการลักลอบออกนอกราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมาย และเข้าเมืองท่าขี้เหล็กอย่างผิดกฎหมาย หากทางครอบครัวจะเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวตัวเองกลับไทย ด้วยความเป็นห่วงภัยอันตราย ทางเจ้าหน้าที่ก็ยินดีช่วยเหลือประสานงานด้วยมนุษยธรรม แต่คงต้องถูกทางการเมียนมาดำเนินคดีในฐานะหลบหนีเข้าเมือง มีโทษจำคุกและปรับ จากนั้นเมื่อกลับมาไทยก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทยด้วยเช่นกัน
ด้าน นาง Caiyun ได้ให้การกับตำรวจท่องเที่ยวว่า น.ส.แองจี้ ลูกสาวทำงานกับบริษัทขายเครื่องสำอางแห่งหนึ่งที่มาเลเซีย เมื่อได้รับการติดต่อกับเพจหนึ่ง แนะนำให้ข้ามไปดูสินค้าตัวอย่าง และเจรจากันที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ลูกสาวจึงอยากได้ช่องทางนำสินค้าครีมและเครื่องสำอาง เพื่อไปขยายตลาดที่มาเลเซีย จึงเดินทางไปตามเพจที่ติดต่อกัน แต่พอข้ามไปท่าขี้เหล็กครอบครัวกลับติดต่อไม่ได้ จึงเป็นห่วงกลัวถูกหลอกไปเรียกค่าไถ่ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยช่วยเหลือติดตามกลับมาด้วยความปลอดภัย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สาวมาเลย์หายตัวปริศนาที่เชียงใหม่ แม่โพสต์ตามหา หวั่นถูกอุ้ม