ครูเพชร ครูสาวเปิดคลิปครูทำร้ายเด็กโรงเรียนอ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ เดินหน้ายื่นหนังสือป.ป.ช. เชียงใหม่ สอบทุจริตการเบิกจ่ายเงินของผู้บริหารโรงเรียน ล่าสุดมีคำสั่งย้ายครูสาวมาช่วยราชการที่ สพป.เขต 3 ผอ.ระบุไม่ใช่คำสั่งลงโทษ แต่ย้ายเพื่อความปลอดภัยของครู ส่วนครูหนุ่มในคลิปถีบเด็ก สั่งโรงเรียนเลิกจ้างแล้ว

เวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ค. 66 นางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย อายุ 31 ปี ครู คศ.1 รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แมะ (อันดับ 2) ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เดินมาทางพร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ยื่นหนังสือคำร้องกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบ การเบิกจ่ายเงินของโรงเรียนบ้านแม่แมะ 

นางสาวเพชรรัตน์ หรือครูเพชร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพราะต้องการมายื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการไปราชการของผู้บริหารของโรงเรียนที่จังหวัดนราธิวาสวว่าใช้เงินถูกต้องตามระเบียบตามด้านการเงินของราชการหรือไม่ ที่ระบุว่าเป็นการไปส่ง ผอ.เขต ไม่ทราบว่ามีหนังสือราชการที่ไปราชการถูกต้องหรือไม่ แล้วการเบิกจ่ายเป็นไปตามระบบราชการหรือไม่ โดยอยากให้ทาง ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ เนืองจากมองว่าส่อทุจริตเพราะการเบิกจ่ายมีเพียงการชี้แจงค่าต่างๆ มีเพียงเอกสาร A4 เพียง 1 ใบเท่านั้น

ครูเพชรยังบอกอีกว่า หลังจากที่เธอออกมาเปิดหน้าแฉทั้งเรื่องการทำร้ายเด็ก การเบิกจ่ายเงินผิดปกตินั้นก็ได้มีเพื่อนครูและประชาชนจำนวนมากมาให้กำลังใจ แต่ก็แอบผิดหวังผู้ใหญ่ในหน่วยงานที่ยังไม่เข้าใจถึงเสียงที่เธอสะท้อนกลับไป เพราะยังมีการโทร.มาเคลียร์ขอให้เธอยุติเรื่องทั้งหมดและจะย้ายเธอกลับไปเป็นครูที่กระทรวงศึกษาธิการแทน แลกกับการที่ไม่ต้องออกสื่ออีก ซึ่งครูเพชรรัตน์บอกว่าที่ออกมาเรียกร้องนั้น ไม่ต้องการจะกลับไปอยู่กรุงเทพฯ ต้องการเป็นครูอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ต่อและต้องการให้มีการจัดการบริหารภายในโรงเรียนและเลิกระบบอุปถัมภ์เส้นสายที่ทำกันอยู่ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเสียงที่เธอสะท้อนออกไปนั้นถึงแม้ผู้ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ แต่เธอก็จะสู้ต่อไปถึงแม้ผลจะออกมารูปแบบไหนก็พร้อมจะยอมรับผลที่ตามมาเพราะเถือว่าได้ออกมาเรียกร้องสิ่งที่ถูกต้อง 

...

สำหรับครูที่ดูแลหอพักชายที่ทำร้ายเด็กนั้น ครูเพชรรัตน์ บอกว่า เขาเคยทำโทษเด็กด้วยวิธีการแบบนี้สองครั้ง เชื่อว่าอาจมีการก่อเหตุมากกว่านี้ เพราะเคยได้ยินว่ามีการลงโทษนักเรียนในหอพักด้วย ซึ่งปกติครูคนนี้ก็เป็นคนดีแต่เมื่อเวลาดื่มแอลกอฮอล์อาจจะมีหลุดบ้างที่จะควบคุมตัวเองไม่ได้

ขณะที่ นางสาววิรัชดา ปิงเมือง นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ทาง พม. ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลเท็จจริงเบื้องต้นเพื่อพิจารณาช่วยเหลือเด็กรวมไปถึงการดูแลความปลอดภัย ทาง พม.และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ยินดีที่จะเข้ามาร่วมดำเนินการช่วยเหลือทั้งครูและเด็ก

ในส่วนของเด็กนั้นตอนนี้อาจจะต้องดูในเรื่องของความรุนแรง และต้องติดตามหาตัวพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กเพื่อจะแจ้งข้อมูลให้ทราบแล้วสอบถามความพร้อมในเรื่องของการดูแลเด็ก จึงจะเข้าสู่แนวทางการพิจารณาช่วยเหลือต่อไป   

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามสำนักเขตพื้นที่ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เพื่อขอสัมภาษณ์นายเรืองยศ ปันศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ทางเลขาฯ ของผู้อำนวยการบอกว่าผู้อำนวยการไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เนื่องจากติดรับแขกอยู่แต่เรื่องนี้ทางเขตรับทราบเรื่องแล้วและได้ให้เจ้าหน้าที่นิติกรลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

ต่อมา ครูเพชร ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายเรืองยศ ปันศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ได้มีหนังสือคำสั่งออกมาให้ตนเองให้มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงจนแล้วเสร็จ ซึ่งอาจจะเปิดช่องให้ตนเองสามารถย้ายออกจากพื้นที่ได้ ซึ่งในส่วนตัวแล้วมองว่าเหมือนกับตนเองถูกลงโทษให้ถูกย้ายออกจากพื้นที่ฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นผู้ออกมาเปิดเผยเรื่องของการกระทำผิด แต่ฝั่งคู่กรณีกลับยังได้ทำงานในที่เดิมเหมือนปกติไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ตามความเป็นธรรมแล้วก็ควรที่จะต้องย้ายคู่กรณีออกจากพื้นที่ด้วยจนกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จ จึงมองว่าการย้ายครั้งนี้ดูจะไม่เป็นธรรมกับตนเอง

ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง นายเรืองยศ ปันศิริ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ออกหนังสือคำสั่งให้ นางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย หรือ "ครูเพชร" มาช่วยราชการที่สำนักงานเขต 3 จริง แต่ให้มาช่วยราชการไม่ได้เป็นคำสั่งย้ายหรือเป็นบทลงโทษ แต่เป็นการช่วยเหลือให้เกิดความปลอดภัยกับครูเพชร เนื่องด้วยคู่กรณีมีการใช้ความรุนแรงเกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นได้ในพื้นที่ แต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือหากครูเพชรต้องการที่จะย้ายไปทำงานในพื้นที่อื่นด้วยเหตุผลเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย 

ในส่วนที่มีความผิดชัดเจนแล้วคือครูอัตราจ้างที่ก่อเหตุทำร้ายนักเรียน เป็นครูที่จ้างด้วยงบประมาณของโรงเรียน เป็นเงินของโรงเรียนแต่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ก็มีอำนาจสั่งการให้ทางโรงเรียนได้เลิกจ้างแล้วในตอนนี้ รอเอกสารเลิกจ้างอย่างเป็นทางการจากโรงเรียนมา เนื่องจากมีความผิดร้ายแรงชัดเจน ส่วนการดำเนินคดีหากเด็กนักเรียนและผู้ปกครองแจ้งความก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย 

ส่วนผอ.และรองผอ. ที่ถูกร้องด้วยก็ต้องให้ความเป็นธรรมซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสอบสวนเรื่องนี้แล้ว หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากันไปตามความถูกต้องและตามขั้นตอน

 ทั้งนี้ ในส่วนของโรงเรียน มีรายงานว่า เวลา 10.00 น. นายอุทัย เลิศกุลทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แมะ ได้พานักเรียนและครูผู้ชายที่ก่อเหตุ เข้าพบพ.ต.ท.ธงชัย เอื้อแท้ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.เชียงดาว เพื่อให้ข้อมูล โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาร่วมซักถาม ซึ่งครูผู้ชายที่ก่อเหตุ ยอมรับว่า วันเกิดเหตุเป็นคนเตะจริง เพราะอารมณ์ชั่ววูบ หลังทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเรื่องของขโมยของในโรงเรียนและนอกโรงเรียนบ่อยครั้ง จึงอยากจะอบรมสั่งสอนให้ลูกศิษย์กลับมาเป็นคนดี รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากจะขอโทษเด็กและผู้ปกครอง หลังจากนี้พร้อมน้อมรับคำตัดสิน

...

นายอุทัย เลิศกุลทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แมะ กล่าวว่า กรณีการกล่าวอ้างว่าตนไปเที่ยวดูงานโดยใช้เงินของโรงเรียน ยอมรับว่าไปจริง แต่ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปซื้อแผงโซล่าเซลล์ เพื่อมาใช้ในโรงเรียนเพื่อลดค่าไฟของโรงเรียน ในเรื่องนี้ยินดีให้ตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ความโปร่งใส

ทางด้าน นายนิรัตน์ พงศ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่ประถมศึกษา เชียงใหม่ 3 เข้าตรวจสอบพฤติกรรมโดยด่วน พร้อมกับประสานผู้กำกับการสภ.เชียงดาวให้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเช่นกัน ขณะเดียวกันได้ยกย่องครูสาวที่กล้าออกมาเปิดเผยเรื่องนี้