กลุ่มชายปริศนาขี่ จยย. 3 คันมากัน 6 คน ทำลายป้ายหาเสียงไทยสร้างไทย เขต 5 เชียงราย ยามวิกาล เชื่อหวังผลทางการเมือง เหตุเกิดหลังคุณหญิงหน่อย หัวหน้าพรรคลงพื้นที่หาเสียง มีคนฟังล้นหลาม เพียงวันเดียว
วันที่ 3 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีผู้ทำลายป้ายหาเสียงของพรรคไทยสร้างไทย จ.เชียงราย เขต 5 จนตัวผู้สมัคร ซึ่งเป็นผู้เสียหายต้องไปแจ้งความเป็นหลักฐาน โดยเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองของพรรคคู่แข่ง
กรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ติดตามจนได้ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านเกี๋ยงดอย ม.13 ต.แม่ลอย อ.เทิง เป็นภาพกลุ่มคนจำนวน 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน มาจากทางบ้านแม่พุง อ.ป่าแดด จอดที่หน้าป้ายหาเสียงใกล้กับร้านค้าดังกล่าว ก่อนมีคนถือมีดลงจากรถทำลายป้ายหาเสียง จากนั้นได้วนรถเลี้ยวกลับไปทางเดิมเหตุ เกิดเวลา 23.47 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา
...
ด้าน ดร.ชูชาติ วิศิษฏ์ลานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 5 หมายเลข 8 ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจป้ายที่โดนทำลาย บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านเกี๋ยงใต้ ม.12 พร้อมเผยว่า จากที่ได้ทำการเดินสำรวจพบว่ามีป้ายที่ถูกทำลายทั้งหมดกว่า 30 ป้าย มีต้นทุนทั้งค่าพิมพ์และติดตั้งประมาณ 450 บาทต่อป้าย ซึ่งมีทั้งป้ายที่โดนกรีดด้วยของมีคม และป้ายที่โดนทุบทำลายด้วยไม้หรือค้อน โดยจะพบว่ามีการทำลายหลังวันที่คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค เดินทางมาหาเสียงให้ผู้สมัครในหลายพื้นที่ในวันที่ 30 เม.ย.66 ซึ่งในพื้นที่ อ.เทิง คุณหญิงสุดารัตน์ได้ลงพื้นที่ใน ต.ปล้อง ซึ่งในพื้นที่มีเวลาเตรียมตัวแค่เพียง 2 วัน แต่ปรากฏว่ามีมวลชนมาร่วมรับฟังการปราศรัยมากกว่า 5,000 คน จึงคาดว่าชาวบ้านในพื้นที่ให้ความสนใจนโยบายหลายๆ อย่างของพรรคไทยสร้างไทย และอยากได้นายกฯ หญิงนักพัฒนา รวมถึงกระแสความนิยมของตนที่เคลื่อนไหวช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่มาโดยตลอด จึงถือเป็นกระแสที่พรรคคู่แข่งอาจจะไม่พอใจจึงส่งคนมาทำลายป้าย ตอนนี้ตนมองว่าเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลที่มุ่งหวังผลทางการเมืองเพียงประเด็นเดียว เพราะตนไม่เคยมีปัญหากับใคร ต้องเป็นการกลั่นแกล้งเพราะกระแสของตนกำลังดีอย่างแน่นอน ตอนนี้ได้ไปแจ้งความและได้รายงานปัญหาไปยังผู้บริหารพรรครับทราบแล้ว แต่ยังไม่มีมติหรือคำสั่งของพรรคว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อ
"ปัจจุบันการเมืองพัฒนาไปไกล ชาวบ้านสามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เขาจะค้นคว้าว่านักการเมืองคนไหนมีคุณภาพและความน่าเชื่อถือขนาดไหน ผลงานทั้งในและนอกสภาจะเป็นตัวชี้วัดอย่างดี เราไม่ต้องไปครอบงำด้วยการซื้อเสียง ข่มขู่ หรือปิดหูปิดตาชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นการเมืองแบบเก่า อยากให้ทุกพรรคมาหาเสียงกันอย่างสร้างสรรค์ดีกว่า ใครได้เราก็ยินดีด้วย ใครไม่ได้ก็ถือว่าเรายังไม่ดีพอก็ต้องกลับไปพัฒนา ทำกิจกรรมหรือนโยบายที่พี่น้องประชาชนถูกใจ เป็นการเมืองสร้างสรรค์ที่จะทำให้ประเทศเราพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น" ดร.ชูชาติ กล่าว