"นิติพล" เดือด "รัฐบาล" นิ่งเงียบปล่อยคนเหนือตายเพราะฝุ่นพิษ PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ การแก้ปัญหากลับวนไป เพราะไม่ใช่กรุงเทพฯ จึงไม่ใส่ใจ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องกระจายอำนาจ

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 66 นายนิติพล ผิวเหมาะ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในภาคเหนือขณะนี้ว่าหนักมาก หลายแห่งค่าฝุ่นขยับจากสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นสีม่วงคืออันตรายติดต่อกันหลายวัน แต่รัฐบาลยังนิ่งเงียบ แม้กระทั่งการประกาศเป็นภัยพิบัติก็ไม่เกิดขึ้น โบ้ยกันไปมาว่าเป็นอำนาจหน่วยงานนั้น หน่วยงานนี้เพื่อปัดภาระให้พ้นตัว การแก้ปัญหาก็ยังวนๆ อยู่กับการฉีดน้ำพ่นน้ำซึ่งพวกท่านรู้ดีว่าแก้ไม่ได้

"สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐมนตรีทุกคนนิ่งเงียบกันหมด คงทำกันแค่สวดมนต์ภาวนาทุกวันให้ฝนให้พายุมา แล้วฝุ่นจะหายคนจะได้เลิกด่า ผมคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ใจร้ายใจดำกับคนเหนือมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"

นิติพล ยังกล่าวอีกว่า ปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือยิ่งตอกย้ำวาทกรรมประเทศไทยคือกรุงเทพฯ เท่านั้น เชื่อว่ารัฐบาลจะมีปฏิกิริยาทันที หากวันนี้ฝุ่นที่กรุงเทพฯ สูงแบบเชียงราย เชียงใหม่ ตอนนี้ แต่พอไม่ใช่กรุงเทพฯ ถึงอยู่ในสถานการณ์มลพิษมาหลายเดือนแล้วก็ไม่ต้องใส่ใจ ยิ่งตอนนี้ฟ้าที่กรุงเทพฯ ใสแล้ว ท่านก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร ไม่ดำเนินการใดๆ นี่ความไม่เท่ากันระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดต่างๆ ในสายตาของรัฐที่เกิดขึ้นจริง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องกระจายอำนาจ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ เพราะอย่างน้อยเมื่อมีปัญหา บางอย่างเราสามารถจัดการแก้ไขสถานการณ์ให้ลดความรุนแรงลงได้ ขณะเดียวกันก็จะมีเสียงดังขึ้นเพื่อต่อรองกับอำนาจส่วนกลางได้มากขึ้น ไม่ใช่ถ้าส่วนกลางจะปล่อยให้คนเหนือเป็นมะเร็งปอดตาย เราก็ต้องรอวันตายไปวันๆ แบบนี้

...

"แต่ถ้ารัฐบาลปล่อยให้คนเชียงราย เชียงใหม่ตายเพราะฝุ่นได้ วันหนึ่งเขาก็ปล่อยให้เราทุกคนตายได้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะสิ่งที่เขามองมีแค่การรักษาอำนาจ ไม่มีชีวิตคนอยู่ในนั้น ปัญหานี้ไม่ใช่แค่ ประยุทธ์-ประวิตร แต่คือพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดที่นั่งเป็น ครม. พรรคไหนบ้างจำเอาไว้ว่าเขาทำอะไรกับเรา ถ้ายังกาให้เขาอยู่ วันหนึ่งคนที่จะตายเพราะฝีมือพวกเขา อาจเป็นเราก็ได้" นิติพลกล่าว