รองเจ้าคณะจังหงัดสงขลา ยืนยัน พระที่พบมรณภาพพร้อมแม่ชี รวม 2 ศพ จากการขับรถปิกอัพชนท้ายรถพ่วง และมีหญิงสาวนั่งไปด้วยได้รับบาดเจ็บ 1 คน เป็นเจ้าอาวาสจริง ทราบว่าอาพาธ ขับรถเองเพื่อไปรับยาจากหมอพื้นบ้าน ส่วนที่มีผู้หญิงและแม่ชีนั่งในรถด้วย ยังต้องสอบสวนว่าไปทำไม

จากอุบัติเหตุ เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 พ.ค. ตำรวจสภ.สิงหนคร จ.สงขลา รับแจ้งมีรถกระบะชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ริมถนนสายระโนด-สงขลา พื้นที่หมู่ 1 ต.เขาแดง อ.สิงหนคร ฝั่งขาเข้าสงขลาพบกระบะโตโยต้ารุ่นไมตี้เอกซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน 5พ-3017 สงขลา ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ทะเบียน 71-579 สงขลา ซึ่งบรรทุกท่อเหล็กมาท้ายรถ มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถกระบะตรงเบาะหน้า 2 ราย เป็นพระสงฆ์ 1 ราย ซึ่งเป็นคนขับ และแม่ชี 1 รายนั่งเบาะข้าง

ทราบชื่อพระที่มรณภาพ คือ พระมหาไพศาล ปสนฺนจิตฺโต (โสภา) ซึ่งเป็นชื่อที่ระบุหน้าซองยาที่พกติดตัว เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองพระยา ในต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนแม่ชีชื่อ น.ส.สุดารัตน์ ลิ่มสกุล อายุ 55 ปี สภาพทั้งสองคนถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ภายในรถ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมาจากรถ เป็นผู้หญิงยังไม่ทราบชื่อ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา เบื้องต้นคนขับรถบรรทุกพ่วงให้การว่า ขับรถมาจอดริมถนนได้ราว 20 นาที เปิดไฟกะพริบเอาไว้และช่วงนั้นมีฝนตกด้วย ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำ คาดว่าเจ้าอาวาสที่เป็นคนขับรถกระบะน่าจะไม่ทันเห็นว่ามีรถพ่วงจอดอยู่ริมถนนจึงขับพุ่งชนท้าย

...

ล่าสุด พระครูสุวัฒนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า พระที่เสียชีวิตคือพระมหาไพศาลฯ เจ้าอาวาสวัดคลองพระยา ส่วนสาเหตุที่ขับรถไปกับแม่ชีและหญิงสาวอีก 1 คนตอนดึก ทราบว่ากำลังเดินทางกลับจากไปรักษาตัวกับหมอบ้านหรือว่าแพทย์แผนไทยในพื้นที่อ.สทิงพระ จ.สงขลา เนื่องจากป่วยเรื้อรังมานานหลายโรค เช่นโรคไต ที่ผ่านมาเข้าออกโรงพยาบาลตลอด เพิ่งไปเจาะคอเมื่อไม่กี่วันมานี้ และทางคณะสงฆ์จังหวัดสงขลาได้ช่วยเหลือดูแลมาตลอด ด้วยอาการป่วยซึ่งทำให้สภาพร่างกายไม่เหมือนคนปกติจึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขับรถชนในครั้งนี้

ส่วนข้อสงสัยว่า ว่าทำไมต้องขับรถไปรักษาตัวเอง ทั้งที่มีอาการป่วย และทางคณะสงฆ์จ.สงขลาได้ย้ำเตือนมาตลอดว่าห้ามพระขับรถเองเด็ดขาด เรื่องนี้จะมีการสอบสวนอีกครั้ง