เสี่ยงถล่มอีก 1 แห่ง ฐานเจดีย์ที่วัดพระธาตุแสงจันทร์ อายุกว่า 500 ปี ที่เชิงดอยสุเทพ เชียงใหม่ พบแตกร้าวหลายจุด ทำให้น้ำฝนไหลซึมเข้าไปสะสมภายใน ทำให้แกนดินภายในอ่อน กรมศิลปากรปิดพื้นที่เร่งบูรณะ
ฝนตกหนักต่อเนื่องที่จังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเสียหายให้กับโบราณสถานเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้าที่เกิดเหตุกำแพงประตูช้างเผือกและองค์พระธาตุวัดศรีสุพรรณพังถล่มเสียหายหนัก ล่าสุดเกิดเหตุฐานเจดีย์เถรจันทร์ โบราณสถานอายุประมาณ 500 ปี ที่วัดพระธาตุแสงจันทร์ หรือ วัดพระธาตุเถรจันทร์ ซึ่งเป็นวัดร้างอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ภายในศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ทรุดตัวเสียหายเป็นแนวยาวประมาณ 5 เมตร กว้างเกือบ 2 เมตร ทำให้เศษก้อนอิฐเก่าแก่หลุดออกมาจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา

หลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 7 เข้าตรวจสอบ พบว่าเกิดความเสียหายหนัก นอกจากร่องรอยดินเคลื่อนตัวจนทำให้ฐานเจดีย์ด้านนอกถูกดันออกมา ยังพบรอยร้าวเป็นแนวดิ่งและแนวนอนอีกหลายจุดรอบองค์เจดีย์ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่พร้อมส่งช่างเข้าไปเร่งบูรณะซ่อมแซม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะพังถล่มลงมาทั้งองค์ได้ตลอดเวลา จากฝนที่ตกไม่หยุด
...

นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เปิดเผยว่า เจดีย์องค์นี้เป็นเจดีย์ทรงระฆังฐานแปดเหลี่ยม สันนิษฐานว่าจะสร้างขึ้นประมาณ 500-600 ปีก่อน ในยุครุ่งเรืองของอาณาจักรล้านนา โดยมีการค้นพบในปี 2550 จากนั้นกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
สาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย มีสาเหตุเดียวกันกับโบราณสถานที่เสียหายก่อนหน้านี้ โดยมาจากตัวโบราณสถานมีอายุหลายร้อยปี มีรอยแตกร้าวหลายจุด ทำให้น้ำฝนไหลซึมเข้าไปสะสมภายในซึ่งเป็นดิน เมื่อดินที่เป็นแกนอ่อนตัวทำให้เกิดแรงดันออกจนเกิดรอยแตกร้าว ลักษณะความเสียหายที่พบเป็นการกระจายน้ำหนักออกด้านข้าง เป็นการดันผนังออกมา นอกจากจุดที่พังออกมายังตรวจเจอรอยร้าวทุกมุมทั้งแนวดิ่วแนวนอน หากมีฝนตกอีก โอกาสเร่งในการพังถลายทั้งองค์มีมาก ทำให้ต้องเร่งบูรณะ โดยจะมีการก่ออิฐเสริมปูนให้รอยร้าวประสานกันทุกจุดที่มีความเสี่ยง

สำหรับวัดพระธาตุแสงจันทร์ เป็นหนึ่งในวัดร้างนอกเมืองเชียงใหม่ อยู่ทางทิศตะวันตกบริเวณเชิงดอยสุเทพ ภายในวัดมีเจดีย์ประธานทรงระฆังฐานแปดเหลี่ยม มีวิหารอยู่ทางทิศเหนือขององค์เจดีย์ประธาน จากการตรวจสอบหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานว่าวัดร้างแห่งนี้จะมีอายุอยู่ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 21

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (3 ตุลาคม) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันสำรวจสภาพโบราณสถานที่มีความเสี่ยงได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกสะสม โดยให้ปิดพื้นที่โบราณสถานทันทีที่พบความเสี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว.