ผู้ใหญ่บ้านบ้านสันหนองควาย หมู่ 4 ยืนยันป่าสุสานเป็นพื้นที่สาธารณะ หลังถูกผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่หนาด หมู่ 13 บุกยิงปืนขู่กลางไลฟ์สด หาเงินซ่อมเมรุ ขณะที่ "ดีเจป่าช้าแดนซ์" ให้ปากคำตำรวจเพิ่มเติม แจ้งบัญชีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่หนาด ม.13 ต.ดอยงาม อ.พาน จ.เชียงราย บุกเข้าป่าสุสานและทำการปิดไฟและใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า ในขณะที่ทีมงานดีเจป่าช้าแดนซ์ กำลังแสดงไลฟ์สด เพื่อระดมทุนมาซ่อมแซมเมรุเผาศพ โดยมีทาง ผู้ใหญ่บ้านบ้านสันหนองควาย ม.4 และชาวบ้านที่อยู่ร่วมในกิจกรรมดังกล่าวอยู่ด้วย จนทางดีเจแอดมินเพจป่าช้าแดนซ์ต้องเดินทางไปแจ้งความกลางดึก เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ในข้อหายิงปืนในที่สาธารณะ และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย
ในช่วงบ่ายวานนี้ (27 ก.ย.) นายธัชพล เสาร์ไพสูญ หรือ "ดีเจป่าช้าแดนซ์" และ น.ส.วรัญญา พลอามาตย์ แอดมินเพจป่าช้าแดนซ์ ได้เดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.พาน และแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของนายบัณฑิต เชื้อลื้อ ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่หนาด ม.13 ที่บุกมาปิดไฟในป่าสุสาน และใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด
...
ด้านนายสรวิศ ดวงวรรณณา ผู้ใหญ่บ้านบ้านสันหนองควาย ม.4 ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูสภาพของเมรุเผาศพที่อยู่ในป่าสุสานสันหนองควาย ซึ่งมีสภาพทรุดโทรม อิฐเพดานในเมรุได้พังร่วงลงมาที่บริเวณเตาเผาเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ไม่สามารถใช้งานเมรุเผาศพดังกล่าวได้เหมือนเดิม ต้องซ่อมแซมก่อนถึงจะใช้เผาศพได้
ผู้ใหญ่บ้านบ้านสันหนองควาย เล่าว่า แต่เดิมทั้ง 2 หมู่บ้านเป็นหมู่บ้านเดียวกัน คือบ้านสันหนองควาย ม.4 แต่ต่อมาประชากรเยอะขึ้นก็เลยแยกเป็นอีก 1 หมู่บ้านคือบ้านแม่หนาด ม.13 แต่หลังจากแยกหมู่บ้านแล้ว แต่ทั้ง 2 ชุมชนก็ใช้ป่าสุสานร่วมงาน โดยยังใช้ชื่อว่าป่าสุสานบ้านสันหนองควาย แต่ตั้งอยู่ในเขตบ้านแม่หนาด ที่ผ่านมาการใช้งานร่วมกันก็ไม่เคยมีปัญหา หมู่บ้านไหนมีงานศพ ก็นำมาเผาที่ป่าสุสานดังกล่าว ก็มีการจ่ายค่าบำรุงป่าสุสานกันตามธรรมเนียม แต่ด้วยเหตุที่ทางชุมชนบ้านสันหนองควายมีขนาดครัวเรือนมากกว่า คือประมาณ 140 ครัวเรือน ส่วนบ้านแม่หนาดมีประมาณ 70 ครัวเรือน เวลามีการซ่อมแซมบำรุงป่าสุสาน ทางบ้านสันหนองควายก็จะได้จ่ายมากกว่าเป็นสัดส่วน 60/40
"ครั้งนี้ตนก็ได้นำทีมงานป่าช้าแดนซ์เข้ามาเพื่อระดมทุนซ่อมแซมเมรุเผาศพ แต่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็คงจะไม่กล้าประสานมาอีกแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็รู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง แต่สงสารทีมงานป่าช้าแดนซ์มากกว่า เพราะเขามีความตั้งใจในการมาช่วยงานมาก ผลกระทบทางหมู่บ้านไม่ค่อยมี จะมีผลกระทบกับทางทีมงานป่าช้าแดนซ์มากกว่า เพราะต้องเสียเวลาซ่อมแซมอุปกรณ์ ที่อื่นที่เขาต้องการให้ไปช่วยก็ต้องเลื่อนไปเพราะไม่รู้จะใช้เวลาซ่อมแซมอุปกรณ์นานแค่ไหน ในส่วนของการซ่อมแซมเมรุเผาศพหลังจากนี้ จะต้องให้ช่างมาประเมินราคาและพูดคุยตกลงร่วมกันระหว่าง 2 หมู่บ้านอีกครั้ง" ผู้ใหญ่บ้านบ้านสันหนองควาย กล่าว