แม่น้ำวังทองวิกฤติ น้ำเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมถนนทางหลวง สาย 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ไหลเข้า 5 ตำบล 20 หมู่บ้าน ผลกระทบ 340 ครัวเรือน ขณะที่ อ.นครไทย ท่วมรอบโรงพยาบาล
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝนที่ตกลงมาหลายวันติดต่อกัน ทำให้น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ หลากลงสู่ลำน้ำเข็ก ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่น้ำวังทอง จนเอ่อล้นในพื้นที่ลุ่มต่ำตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ล่าสุดเช้าวันนี้พบว่า มวลน้ำที่เอ่อล้น ได้ขยายวงกว้างท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ทางการเกษตร ใน 5 ตำบล ของ อ.วังทอง ได้แก่ ต.วังนกแอ่น ต.ชัยนาม ต.ดินทอง ต.วังทอง และ ต.บ้านกลาง ร่วม 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 340 ครัวเรือน โดยมีน้ำไหลเข้าท่วมเขตพื้นที่บ้านจำนวน 121 หลังคาเรือน นอกจากนี้มวลน้ำจากแม่น้ำวังทอง ยังขยายวงกว้างท่วมทางหลวงหมายเลข 12 ถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก ช่วงบริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลวังทอง จนถึง สี่แยกวัดบ้านพร้าว บางจุดน้ำท่วมสูง 10-30 ม.ระยะทางกว่า 2 กม. แต่รถเล็กยังสามารถสัญจรไปมาได้เพียงฝั่งละ 1 ช่องทางจราจรชิดกับเกาะกลางถนน
...
นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอวังทอง เปิดเผยว่า วันนี้ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากฝนลดลง แต่ต้องเฝ้าระวังผลกระทบจาก "พายุ“โนรู” ในวันที่ 28-30 กันยายน 2565 จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น อาจทำให้มวลน้ำในแม่น้ำวังทองมากขึ้นอีก เบื้องต้นในวันนี้ได้ประสานให้ทางสำนักงานชลประทานพิษณุโลก ให้เปิดประตูระบายน้ำที่บริเวณปลายน้ำที่ประตูระบายน้ำวังน้ำใส หมู่ที่ 8 ต.แม่ระกา โดยยกบานลอยทั้งหมด เพื่อที่จะพร่องน้ำลงแม่น้ำน่านโดยเร็วเป็นการลดผลกระทบหากมีฝนตกลงมาอีก อย่างไรก็ตามก็ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝนตกอย่างใกล้ชิด ประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำให้ขนสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง ป้องกันความเสียหาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาสมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเรือท้องแบนและอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ ให้กับประชาชนยกขึ้นที่สูง และกรอกกระสอบทรายเพื่อนำไปอุดกั้นป้องกันน้ำหลากเข้าท่วมภายในตัวบ้าน
ขณะเดียวกัน จากการที่มีฝนคงตกหนักที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย และในพื้นที่สูงของ อ.นครไทย ทำให้มีน้ำไหลจากลำน้ำเฟี๊ยะ ลำน้ำห้วยขมึน และลำน้ำแควน้อยล้นตลิ่ง และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลากท่วมบ้านเรือนและท่วมถนนสายนครไทย-ด่านซ้าย เป็นช่วงๆ นอกจากนี้ยังท่วมบริเวณพื้นที่ต่ำหลายแห่ง อาทิ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย และบริเวณถนนหน้าปั๊ม ปตท. เนินเพิ่ม ระดับน้ำสูง 10-20 เซนติเมตร
นายแพทย์ ศิษฎิคม เบจญขันต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำผู้ป่วยไปอยู่อาคารสูง 6 ชั้น ตึกผู้ป่วยนอก ตึกพีอาร์ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และไม่มีผลกระทบกับผู้ป่วย แพทย์และพยาบาลยังสามารถรักษาคนไข้ตามปกติ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ต่างๆ ได้ขนย้ายขึ้นชั้นบนตั้งแต่เวลา 02.00 น. แล้ว เพียงแต่เส้นทางเข้าออก รพ.ยุพราช เป็นไปด้วยความลำบากเท่านั้น อย่างไรก็ตามได้ประสานไปทางอำเภอและป้องกันฯ แล้วเพื่อขอเครื่องสูบน้ำมาช่วยสูบน้ำออก ตอนนี้ก็มีกำลังพลจากทหารค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนไข้ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรร่วมกับตำรวจแล้ว
...