ความคืบหน้าการกู้เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของนกแอร์ ที่ไถลออกนอกรันเวย์ สนามบินแม่ฟ้าหลวง ล่าสุด จนท.สามารถดึงเครื่องออกจากดินได้แล้ว พบฐานล้อซ้ายทรุดตัว คาดว่าจะเปิดรันเวย์ได้ช้าสุดพรุ่งนี้เช้า

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 บรรยากาศที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย ภายในห้องพักผู้โดยสารค่อนข้างบางตากว่าปกติ โดยส่วนมาก จะเป็นผู้โดยสารที่ตกค้างมาเลื่อนตั๋วการเดินทาง และผู้ที่มาจองที่นั่งต้องการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ของ 5 สายการบิน พร้อมกับรอขึ้นรถบัส รถตู้ ในเวลา 11.00 น. ที่สายการบินว่าจ้างไปส่ง จ.เชียงใหม่ เพื่อขึ้นเครื่องบิน โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่โอดครวญ ว่าไม่ได้รับความสะดวกจากสายการบิน เพราะต้องนั่งรถจาก จ.เชียงรายไป จ.เชียงใหม่ นาน 5 ชม. ซึ่งทำให้เสียเวลาทั้งวัน และบางสายการบินไม่จัดเที่ยวบินสำรองที่ จ.เชียงใหม่ ไว้รองรับไว้ ตามกำหนดเวลาที่จองไว้ล่วงหน้า แต่ประกาศยกเลิกเที่ยวบินดื้อๆ และเลื่อนการเดินทางไปวันอื่น

นายสุนทร สุทธิเหลือ ผู้โดยสารที่จองตั๋วสายการบินนกแอร์ มารอขึ้นรถบัสไปเชียงใหม่ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ เล่าว่า ช่วงวันหยุดยาวได้กลับมาเที่ยวบ้านที่ อ.พาน โดยกำหนดกลับเย็นวันที่ 1 ส.ค.โดยสายการบินนกแอร์ แต่ได้รับการแจ้งจากบริษัทนกแอร์ ที่แจ้งว่าวันที่ 1 ส.ค.เครื่องบินที่ จ.เชียงใหม่เต็ม ขอเลื่อนกำหนดการเดินทางเป็นวันที่ 2 ส.ค.ในเวลา 15.00 น. ทั้งที่เกิดเหตุผ่านมา 2 วัน ไม่มีการเตรียมเครื่องบินมารองรับ ทำให้ตนเองได้รับผลกระทบในเรื่องงาน เป็นอย่างมาก เพราะต้นเดือนจะต้องเคลียร์งาน ซึ่งมีผู้ที่คอยรับงานต่ออีกเป็นทอดๆ และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ขณะเดียวกันที่บริเวณจุดลงทะเบียนผู้โดยสารตกค้างไปเชียงใหม่ ได้มีผู้โดยสารชายคนหนึ่ง จะมาขึ้นรถบัสไปเชียงใหม่ เมื่อรู้ว่ามีการเลื่อนการเวลารถออกจาก 10.00 น. ไปเวลา 11.00 น.ทำให้เกรงว่าจะไม่ทันขึ้นเครื่องที่ จ.เชียงใหม่ ได้เดินมาโวยวายว่า การบริการของการท่าอากาศยานเชียงราย ไม่ได้มาตรฐาน ฝ่ายบริหารไม่มาสนใจผู้โดยสาร โดยมี รอง ผอ.การท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงคนหนึ่งมาอธิบายรับรองว่าทันเวลาขึ้นเครื่องแน่นอน

...

ต่อมาเวลา 11.00 น. นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กล่าวถึงความคืบหน้าของการ กู้เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินนกแอร์ว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน (กสอ.) ได้อนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายอากาศยาน เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ท่าอากายานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) จึงได้ดำเนินการประสานงาน กับสายการบินนกแอร์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการเคลื่อนย้ายอากาศยาน โดยได้รับการสนับสนุนจาก Aircraft Recovery Team ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และได้เตรียมการเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ประสบอุบัติเหตุออกจากพื้นที่ โดยมีแผนการดำเนินการดังนี้

1. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ดำเนินการสร้างถนนชั่วคราวเพื่อใช้ในการรองรับการลากอากาศยานโดยใช้หินคลุกบดอัดและใช้เสื่อกู้อากาศยาน รวมทั้งแผ่นเหล็กรองรับน้ำหนักของอากาศยาน
2. บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้ทำการถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากอากาศยาน
3. Aircraft Recovery เข้าดำเนินการใส่เบาะลมที่ใต้หัวอากาศยาน และอัดลมเพื่อยกขึ้น โดยการเตรียมการเคลื่อนย้ายอากาศยาน ในครั้งนี้ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้รับการสนับสนุน

และความอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม ดังนี้ เสื่อกู้อากาศยาน พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกู้ภัย จาก กรมท่าอากาศยานโดยท่าอากาศยานพิษณุโลก, แผ่นเหล็กกู้อากาศยาน จากกองทัพอากาศโดยกองบิน 41, กำลังพล จำนวน 60 นาย แบ่งเป็นจำนวน 2 ผลัด ผลัดละ 30 นาย จาก มณฑลทหารบกที่ 37, รถเทรลเลอร์ จาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย รถ Mobile Lighting จาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย, รถนำขบวนอุปกรณ์จากท่าอากาศยานพิษณุโลก มาจังหวัดเชียงราย และ จากท่าอากาศยานเชียงใหม่ มาจังหวัดเชียงราย โดยกองบัญชาตำรวจภูธรภาค 5, รถสุขาเคลื่อนที่ จากเทศบาลนครเชียงราย และ เต็นท์ จำนวน 4 หลัง จากหมู่บ้านปางลาว

ทั้งนี้ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ดำเนินการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ จากกรณีเหตุการณ์อากาศยานลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง ดังนี้ จัดสนับสนุนรถรับ-ส่งผู้โดยสารที่ "ตกค้าง" ที่ไม่สามารถเดินทางโดยรถที่สายการบินจัดหาไว้ให้ และผู้โดยสารที่มีความประสงค์เดินทางไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เพื่อเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานปลายทาง ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อีกทั้งรถแท็กซี่มิเตอร์ และแท็กซี่ลีมูซีน ให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง, จัดเตรียมร้านค้าให้บริการสำหรับ ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยให้บริการถึงเวลา 22.00 น. และยิ่งไปกว่านั้น ทชร. ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารในการ "ยกเลิกการเรียกเก็บค่าบริการจอดรถยนต์" จากกรณีเหตุการณ์อากาศยานลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง ตามที่ ทชร. แจ้งปิดให้บริการทางวิ่งตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ถึง วันที่ 3 สิงหาคม 2565

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ใส่เบาะลมที่ใต้หัวอากาศยาน และอัดลมทำการยกหัวเครื่องบินสูงขึ้นและล้อหน้า 3 ล้อพ้นจากพื้นดิน ใช้รถเทรลเลอร์รองรับไว้ ทำให้ปีกเครื่องบินด้านซ้ายที่เอียงอยู่ได้ขึ้นมาอยู่ในระดับเสมอกัน ทำให้คาดว่าเวลาเย็นวันที่ 2 ส.ค. จะสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องบินมาจอดที่หลุมในลานเวลาปกติ และอาจจะเปิดรันเวย์อย่างเป็นทางการได้ในคืนนี้ หรือเช้าวันที่ 3 ส.ค. ตามเวลาที่กำหนดปิดรันเวย์ 3 วันตามกำหนด

...

ล่าสุด มีรายงานว่า เครื่องบินขยับออกจากจุดที่ล้อจมดิน โดยใช้รถเทรลเลอร์ช่วยพยุงส่วนหัวเครื่องแทนล้อหน้าที่หัก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ หลังจากเครื่องบินขยับออกจากจุดที่จมมาประมาณ 1 เมตร แม้ฐานล้อหลักด้านขวาไม่มีปัญหา แต่ฐานล้อหลักด้านซ้ายพื้นเกิดการทรุดตัว ทางทีมเทคนิคกำลังแก้ไขปัญหากันอยู่ คาดว่าเย็นวันที่ 2 ส.ค. จะลากเข้าหลุมจอดได้ และเปิดรันเวย์คืนนี้ หรือพรุ่งนี้เช้า (3 ส.ค. 65)