ชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก ยังเดือดระอุ รัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาส่งเครื่องบิน ขับไล่ MIG 29 SE ถล่มฐานที่มั่นทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ระเบิดพลาดเป้าตกใส่กลางบ้านชาวกะเหรี่ยงที่กำลังล้อมวงกินข้าวเย็น ตาย 2 ศพ เจ็บสาหัส 3 ราย หนึ่งในนั้นเป็นคนไทยรอโอนสัญชาติ แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนราษฎรไทยเสียหาย 3 หลัง “นพดล ปัทมะ” อดีต รมว.ต่างประเทศ ชี้บินรบต่างด้าวล้ำแดนไม่ใช่เรื่องเล็ก ติงรัฐบาลควรรักษาเกียรติภูมิประเทศในระยะยาว
สถานการณ์ความตรึงเครียดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ยังคงเดือดระอุ หลังทหารเคเอ็นยู กองพัน 27 หน่วยจู่โจมที่ 201 และ 103 กองพลน้อยที่ 6 สนธิกำลังสามฝ่าย เปิดศึกสู้รบกับทหารเมียนมา กองพันที่ 32 ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 559 บก.ควบคุมที่ 13 อ.ซูการี จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อแย่งชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ทั้ง 2 ฝ่ายยิงปะทะด้วยอาวุธหนักกินเวลายาวนานเข้าสู่วันที่ 7 และสงครามยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา รัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศละรอกใหม่ ใช้เครื่องบินขับไล่ MIG-29 SE จำนวน 1 ลำ บินในระดับสูงเหนือแนวชายแดนไทย-เมียนมา ก่อนจิกหัวลงมาทิ้งระเบิด 1 ลูก ใส่ฐานที่มั่นทหารกะเหรี่ยงในหมู่บ้านทิบาโบ จ.เมียวดี แต่ระเบิดพลาดเป้าลอยไปตกกลางหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยง ระเบิดตกลงกลางหมู่บ้านเสียงดังสนั่นจนพื้นดินสะเทือนทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา สร้างความตกใจไปทั่วแนวชายแดน ทำให้มีชาวกะเหรี่ยงที่นั่งล้อมวงกินข้าวเย็นอยู่ในบ้านเสียชีวิตทันที 2 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 3 คน ชาวบ้านรีบลำเลียงคนเจ็บข้ามชายแดนมาขอรับการรักษาตัวที่ รพ.พบพระ จ.ตาก ทางการไทยได้ช่วยเหลือชีวิตผู้บาดเจ็บตามหลักมนุษยธรรม
...
การทิ้งระเบิดพลาดเป้าหมายดังกล่าว ยังทำให้ชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้านทิบาโบ 92 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงต้องหนีตายข้ามแม่น้ำเมย มาขอหลบภัยสงครามชั่วคราวในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ 5 ต.พบพระ ทหารและฝ่ายปกครองนำตัวผู้หนีภัยจากการสู้รบกลุ่มดังกล่าวไปพักในวัดหมื่นฤาชัย พร้อมมอบอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องนอนเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนผลกระทบการใช้เครื่องบินรบมาบินทิ้งระเบิดครั้งนี้ จุดทิ้งระเบิดอยู่ห่างแนวชายแดนไทย-เมียนมา เพียง 400 เมตร ทำให้มีสะเก็ดระเบิดลอยข้ามชายแดนมาตกกลางหมู่บ้านหมื่นฤาชัย บ้านเรือนถูกสะเก็ดระเบิดเสียหายเป็นรูพรุน 1 หลัง โชคดีที่ราษฎรไทยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่สร้างความโกลาหลไปทั่วหมู่บ้าน เนื่องจากเสียงระเบิดดังราวแผ่นดินไหว ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องวิ่งหนีลงหลุมหลบภัย
หลังเกิดเหตุทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 กองกำลังนเรศวร พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ นำกำลังเข้าตรึงทั่วพื้นที่แนวชายแดนในหมู่บ้าน หมื่นฤาชัย ขณะเดียวกันเหนือน่านฟ้าชายแดนอำเภอพบพระ ยังมีเครื่องบินรบเมียนมา บินวนเวียนตรวจการณ์ เหนือแนวชายแดนไทย-เมียนมา อยู่ตลอดเวลา และคาดว่าตลอดทั้งวันนี้จะมีเครื่องบินรบบินโจมตีทางอากาศเพื่อถล่มพื้นที่เป้าหมายของทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูที่ยังคงปักหลักยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดนาน 7 วันแล้ว ทำให้สถานการณ์ตรึงเครียดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทหารเมียนมาได้ยิงลูกระเบิด ค.120 มม. จำนวนหลายลูกเพื่อสกัดแนวรบของทหารกะเหรี่ยงที่ยังคงตั้งแนวปะทะอยู่รอบฐานอูเกรทะของทหารเมียนมา ทหารเมียนมายังใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ลำเลียงระเบิดและกระสุนปืนสงครามจำนวนมาก มาลงที่ฐานทีตาแหล่ บ้านวาเล่ย์ใหม่ จ.เมียวดี ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ อ.พบพระ จ.ตาก ขณะที่เครื่องบินขับไล่ MIG-29 SE จำนวน 1 ลำ ได้บินเลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมยิงจรวดโจมตีที่บริเวณแนวสะพานพื้นที่ดอยแดง อ.ซูการี ฝั่งเมียนมา อยู่ห่าง ชายแดนไทยเพียง 1 กม. ตรงข้ามกับบ้านมอเกอร์ไทย หมู่ 1 อ.พบพระ เสียงระเบิดดังข้ามมาถึงฝั่งไทยจนชาวบ้านขวัญผวา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ผู้เสียชีวิต 2 ศพจากการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทหารเมียนมาเมื่อคืนที่ผ่านมา ทราบชื่อนายนาปะ ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี เป็นคนไทย มีบัตรสีชมพู ที่อยู่ระหว่างรอโอนสัญชาติไทย เนื่องจากรายชื่อตกหล่นระหว่างการแจ้งเกิดในอดีต เสียชีวิตพร้อมญาติผู้ใหญ่ชื่อนายคะชุ ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมา ทั้ง 2 คน ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ สิ้นใจคาที่ขณะนั่งล้อมวงกินข้าวเย็นอยู่ในบ้าน พร้อมญาติที่มีเชื้อสายกะเหรี่ยงอีก 3 ราย ทั้งหมดอาการสาหัสถูกลำเลียงข้ามแม่น้ำเมยมารักษาตัวที่ รพ.พบพระ ส่วนผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 ศพ ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลที่ฝั่งเมียนมา สำหรับบ้านเรือนคนไทยที่ถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย 3 หลัง ทหาร ฉก.ร.14 นำกำลังไปช่วยซ่อมแซมบ้าน พร้อมส่งทีมแพทย์สนามและทหารจิตวิทยาเข้าไปปลอบขวัญชาวบ้านในหมู่บ้านหมื่นฤาชัยแล้ว
...
วันเดียวกัน นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีเครื่องบินรบเมียนมาบินล้ำดินแดนไทยว่า มีคนวิจารณ์ท่าทีของคนในรัฐบาลว่าเหมาะสมหรือไม่ คงไม่มีใครอยากเห็นความขัดแย้ง ทางอาวุธกับเพื่อนบ้าน แต่ไทยควรมีท่าทีที่มั่นคงชัดเจนกว่านี้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ควรประท้วง เตือน หรือมีท่าทีที่เหมาะสมแก่กรณีแต่ละระดับ เรายังไม่ได้ฟังท่าทีของเมียนมาเรื่องนี้ มีแต่ได้ยินฝ่ายต่างๆของไทยชี้แจง บางชุดของคำชี้แจงเป็นของฝ่ายไทย ไม่ใช่จากฝ่ายเมียนมา ไทยได้แสดงความกังวลเพียงพอหรือไม่ว่าการปฏิบัติการของเมียนมาอาจมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องคนไทยตามแนวชายแดน จะมีหลักประกันอย่างไรว่าจะไม่เกิดกรณีเช่นนี้อีก
“คนไทยที่ได้รับผลกระทบไปแล้ว เช่น ทรัพย์สิน ที่เสียหายจะได้รับการเยียวยาอย่างไร การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านทุกรัฐบาลต้องทำอยู่แล้ว แต่ต้องรักษาเกียรติภูมิของประเทศในระยะยาวด้วย ดังนั้น การจัดการกรณีทำนองนี้ รัฐบาลควรมีท่าทีที่เหมาะสม รับฟังข้อเสนอแนะแล้วนำไปปรับปรุงจะดีกว่า” นายนพดลกล่าว