ระทึกเหนือน่านฟ้า อ.พบพระ พบเครื่องบินรบทหารพม่า 1 ลำรุกล้ำน่านฟ้า หลังการสู้รบโจมตีกองกำลังกะเหรี่ยงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ยิงจรวดพลาดตกเขตไทยรถยนต์เสียหาย ชาวบ้านวิ่งหนีลูกระเบิดโกลาหล ล่าสุดมีชาวเมียนมาอพยพหนีสงครามแล้วกว่า 1 พันคน  ด้านทอ.ไทยส่ง เอฟ 16 บินลาดตระเวนแนวชายแดน

วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เวลา 11.50 น. สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูและทหารกองทัพเมียนมา ซึ่งทำการสู้รบกันมาถึง 5 วันและมีการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดด้วยอาวุธหนักโดยกำลังพลทหารทั้งสองฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตไปด้วยกัน และมีการเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศด้วยเครื่องบินรบของทหารเมียนมาหลายลำหลายเที่ยวบิน โจมตีต่อเนื่องตลอดทั้ง 5 วัน

ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมากองทัพทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบินรบติดอาวุธทั้งปืนกลอากาศและจรวดความเร็วสูงบินขึ้นจากฐานทัพอากาศในประเทศเมียนมา มุ่งหน้ามาโจมตีกองกำลังทหารกะเหรี่ยงที่กำลังปิดล้อมฐานทหารเมียนมา ฐานบ้านอูเกรทะ อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ที่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก

...

ระหว่างนั้นชาวอำเภอพบพระทั้งตำบลต่างก็ต้องวิ่งหาที่กำบัง บางคนวิ่งลงหลุมหลบภัยใต้ถุนบ้านเนื่องจากบนน่านฟ้าเหนือตัวอำเภอพบพระ มีเครื่องบินรบติดอาวุธของทหารเมียนมา 1 ลำบินรุกล้ำน่านฟ้าเข้ามาถึงตัวอำเภอพบพระ ซึ่งเป็นย่านชุมชน เสียงเครื่องบินรบดังสนั่นทั่วชายแดน จากนั้นเครื่องบินรบได้ยิงทั้งปืนกลอากาศและยิงจรวดใส่ฐานอูเกรทะ เพื่อจะถล่มทหารกะเหรี่ยงที่อยู่รอบฐานทหารแต่เกิดมีกระสุนปืนกลอากาศหลายลูกหลุดข้ามชายแดนมาตกที่บริเวณหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ 3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ ซึ่งกระสุนชุดดังกล่าวได้ตกบริเวณไร่ปาล์มของนางจุฑามาศ แก้วพวง บ้านเลขที่ 193 หมู่ 3 ตำบลวาเล่ย์ มีสะเก็ดระเบิดและกระสุนปืนไปถูกรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน กจ- 3190 ตาก ของนายสายัณห์ วงศ์ใจ ชาว อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งจอดอยู่ในสวนได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่ก็ส่งผลทำให้โรงเรียนในหมู่บ้านวาเล่ย์ 1 แห่งต้องหยุดการเรียนการสอนแบบฉุกเฉิน ครูและนักเรียนต่างวิ่งไปในหลุมหลบภัยรอจนเหตุการณ์สงบลง ผู้ปกครองนักเรียนจึงรีบไปรับตัวบุตรหลานเดินทางกลับบ้านไปทันที

นอกจากนี้เหตุการณ์การสู้รบ ส่งผลให้มีชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้านในฝั่งประเทศเมียนมา เบื้องต้นมีจำนวน 543 คน อพยพหนีตายจากกระสุนปืนกลของเครื่องบินรบทหารเมียนมาที่สาดกระสุนไปทั่วแนวชายแดน ข้ามลำห้วยวาเล่ย์มาขอหลบภัยในวัดวาเล่ย์เหนือ และยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีชาวเมียนมาได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ถูกสะเก็ดระเบิด โดยสองวันนี้มียอดผู้อพยพรวมกว่าหนึ่งพันคน จากสถานการณ์การสู้รบแบบแตกหักและรุนแรงมากขึ้น

ล่าสุดกองทัพอากาศไทยได้ส่งเครื่องบินรบ เอฟ-16 จำนวน 2 ลำบินลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าตลอดแนวชายแดนจังหวัดตาก เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยแล้ว