เจ้าอาวาสออกโรงเอง พระในวัดใหม่พรหมพิราม ไม่ได้ติดป้ายต่อต้านหมอปลา ไม่รู้ใครมาติด เพราะพื้นที่หน้าวัดยกให้เป็นที่สาธารณะใครจะติดก็ได้ ยืนยันทางวัดยินดีต้อนรับ อยากเจอ เพื่อคุยกันเคลียร์กันให้เข้าใจ
จากกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพ วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งขึ้นป้ายไม่ขอต้อนรับ "หมอปลา" พร้อมแคปชั่นระบุว่า "วัดแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ขึ้นป้ายต่อต้านหมอปลาโดยมีข้อความในป้าย เขียนไว้ว่า "ร่วมปลุกกระแส ห้ามหมอปลา เข้าสร้างความวุ่นวายในเขตวัด ทำตัว...อยู่เหนือกฎหมาย ใช้อำนาจอะไร? แค่อ้างว่ามีคนร้องเรียน ก็บุกเข้าค้นวัดได้ทุกซอกทุกมุม โดยไม่ต้องมีหมายค้น", "ถ้าแน่จริง มีคนแจ้งว่า บ้านนี้ค้ายา บ้านนั้นค้าของเถื่อน กล้าเข้าค้นเหมือนเข้าค้นวัดไหม" วัดเป็นนิติบุคคล เจ้าอาวาสเป็นพนักงาน ทุกวัดควรขึ้นป้าย ต่อต้านหมอปลา ฝ่าฝืนเข้าไปทำแบบที่เคยทำในวัดไหน ให้ฟ้องศาลทุกวัด ผิด,ถูกไปว่ากันที่ศาล ไม่เช่นนั้น หมอปลาจะย่ำยีพระตลอดไป" และ "กล้าไปทุกวัด ก็ต้องกล้าไปขึ้นศาลทุกคดีนะ หมอปลา"
ล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.พรหมพิราม ได้เดินทางมาตรวจสอบในวัดใหม่พรหมพิราม และสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ขณะที่บรรยากาศภายในวัดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาจำนวนมาก เพราะส่วนใหญ่ต่างบอกว่าเป็นวัดบ้านเราก็ไม่อยากให้มีเรื่องเสื่อมเสียอะไร แต่ก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งติด ขณะที่ร้านป้ายในพื้นที่ยอมรับว่ามีคนมาสั่งทำจริงก็ทำไปตามงานที่จ้าง และมีคนมารับไปติดเอง ทางร้านไม่ได้เป็นคนไปติดเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่วนใครเป็นคนว่าจ้างทางร้านไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าได้ เพราะจะเสียจรรยาบรรณระหว่างร้านและลูกค้า
...
ขณะที่ พระครูธีรศาส กิตจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีที่มีเรื่องป้าย ยอมรับว่าทราบเรื่องเมื่อคืนตอน 3 ทุ่ม เพราะพระผู้ใหญ่โทรมาสอบถามและสั่งให้ปลดป้ายเพราะไม่สบายใจ กลัวเรื่องจะบานปลาย และทำลายชื่อเสียงของวัด เมื่อเช้ามืดนี้จึงช่วยกันกับพระลูกวัด นำป้ายต้านหมอปลาลงมาและให้นำไปเผาตั้งแต่ช่วง 6 โมงเช้าแล้ว ในส่วนของคนที่ติดป้ายนั้นไม่ทราบจริงๆ เพราะจุดติดป้ายหน้าวัดเป็นจุดสาธารณะ ปกติใครจะมาติดป้ายก็ได้ แต่ความคิดเห็นส่วนตัวเห็นว่าไม่สมควรเพราะทำให้วัดเสียชื่อเสียง แต่คงไม่ถึงขั้นต้องแจ้งความดำเนินคดี เพราะคนที่ติดป้ายเองก็คงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนเรื่องของหมอปลา หากเดินทางมาทางวัดเองก็ยินดีต้อนรับ และคงคุยกันเคลียร์กันให้เข้าใจว่าทางวัดเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขึ้นป้ายต่อต้านแต่อย่างใด
ด้าน นายพงษ์ศิริ ดีเหลือ อายุ 52 ปี หัวหน้าคนงานก่อสร้างที่รับเหมาก่อสร้างกุฏิอยู่ภายในวัดเปิดเผยว่า พระของวัดใหม่พรหมพิรามอยู่กับพวกตนที่กำลังก่อสร้างกุฏิ จึงขอยืนยันว่าเจ้าอาวาสและพระที่วัดไม่รู้เรื่องป้ายอย่างแน่นอน ส่วนพระวัดไหนหรือใครนำมาติดตั้งนั้น ตนก็ไม่ทราบเพราะทำงานกันอยู่ เดินไฟกันบ้าง ปูกระเบื้องกันบ้าง ไม่รู้ว่าใครมาติดป้ายดังกล่าว แต่ขอยืนยันว่าไม่ใช่พระที่วัดนี้นำไปติดตั้งแน่
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จากสำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลกได้เข้าพูดคุยกับเจ้าอาวาสและพระในวัดใหม่พรหมพิราม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว.