แรงงานพม่าเสี่ยงตายลอบเข้าเมือง หลังใช้เส้นทางข้ามแม่น้ำเมย เดินเลาะตามป่าเขา 8 วัน มีมาม่าประทังชีวิต ถูก นอภ.วังเจ้า นำร้อย.อส. ทหาร กกล.นเรศวร ซุ่มจับกุมได้กลางป่า 43 คน รับต้องการมาทำงานยังกรุงเทพฯ เสียค่าหัวนำพาสูงถึง 3 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.65 นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอวังเจ้า ได้รับแจ้งได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังตำลึง หมู่ 5 ตำบลนาโบสถ์ ว่าพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก หลบซ่อน อยู่ในป่า ข้างคลอง หลังหมู่บ้านบ้านวังตำลึง มีจำนวนหลายคน สั่งการให้กองร้อย อส. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับชุดกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลนาโบสถ์ และเจ้าหน้าที่ทหารทหารชุดลาดตระเวนระยะไกลชุดที่ 2 กองกำลังนเรศวร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเจ้า รวมกันกว่า 30 นาย เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น ในพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นพื้นที่ใช้ป่าติดข้างคลองน้ำ (คลองยายเฒ่า) บริเวณหลังหมู่บ้าน ตามที่ได้รับแจ้ง

เจ้าหน้าที่วางแผนเข้าจับกุมแต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกรมแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้มีการจัดชุดเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ต้องใช้ยุทธวิธีในการซุ่มดูและค่อยเข้าไปหากลุ่มแรงงานต่างด้าว พบว่าแรงงานกลุ่มนี้จัดกำลังเป็นกลุ่ม มีแรงงานชายด้วยกันที่เดินทางมาคอยยืนสังเกตการณ์ สลับสับเปลี่ยนกันเฝ้าระวังเพื่อให้กลุ่มแรงงานของตนเองปลอดภัยไม่ให้ใครมาพบเห็น เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในระยะประชิดจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่กลุ่มแรงงานกลุ่มนี้พยายามที่จะวิ่งหลบหนีบางส่วนกระโดดลงคูน้ำจนเนื้อตัวเปียก เปื้อนไปด้วยโคลนตม ส่วนหนึ่งวิ่งหลบหนีเข้าป่า แต่เจ้าหน้าที่ที่ปิดล้อมก็สามารถสกัดจับตัวไว้ได้ ทั้งหมด จำนวน 43 ราย แบ่งเป็น ชาย 26 คน หญิง 17 คน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่ปกครองลำเลียงมาดำเนินคดีที่อำเภอวังเจ้า

...

จากการสอบถาม แรงงานหญิงชาวเมียนมาอายุ 43 ปี โดยมี ร.ต.พัฒนา ช่างล้อ หัวหน้าชุดลาดตระเวนระยะไกลที่ 2 กองกำลังนเรศวร ซึ่งสามารถพูดคุยภาษาเมียนมาได้เป็นล่ามแปลภาษาให้นายอำเภอวังเจ้าพูดคุยกับแรงงาน ทราบว่า ส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายที่กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรปราการ โดยได้เดินทางจากประเทศเมียนมาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้ 8 วัน โดยลักลอบข้ามฝั่งไทยโดยเดินข้ามแม่น้ำเมย ที่ขณะนี้เริ่มแห้งระดับน้ำลดต่ำ แล้วลัดเลาะเข้าเส้นทางตามธรรมชาติ เมื่อถึงฝั่งไทยจะมีรถยนต์กระบะมารับ และนำไปปล่อยให้ลงรถบริเวณชายป่าหลังหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับอำเภอแม่สอด จากนั้นมีนายหน้าคนนำทางพาเดินเท้าเข้าป่าผ่านหุบเขา รวม 8 วันที่ผ่านมาทุกคนได้กินเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำจากลำธารเพียงเท่านั้น ไม่ได้กินข้าวมา 8 วัน ซึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใช้เป็นเสบียงในการเดินทางนั้นทุกคนต้องจัดหาซื้อมาเอง เพราะกลุ่มคนนำพาจะทำหน้าที่เพียงนำทางเดินเข้ามาในประเทศไทยเท่านั้น โดยทุกคนจะมีค่าหัวแตกต่างกันไปเริ่มตั้งแต่ราคา 24,000 บาทไปจนถึง 30,000 บาท


นายอำเภอวังเจ้า จึงสั่งการจัดอาหารเป็นข้าวกล่องและน้ำให้กับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้กินประทังหิว และ ตรวจ ATK ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนนำตัวแรงงานทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังเจ้า