ก.มหาดไทย สั่งด่วน ให้นายกเทศมนตรีเมืองแพร่พ้นจากตำแหน่ง และให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ด้าน โชคชัย พนมขวัญ โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมทำงาน และชี้แจงศาลไม่ตัดสินว่าผิดในประเด็นต่างๆ

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองแพร่ ได้มีการนัดประชุมส่วนราชการและคณะบริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ โดยมีนายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ เป็นประธานในการประชุม โดยนายโชคชัย ได้กล่าวขอบคุณคณะบริหารสมาชิกสภาและข้าราชการในสังกัดเทศบาลเมืองแพร่ ที่ได้ให้ความร่วมมือ และทำงานด้วยกันอย่างมีความสุข

การประชุมในครั้งนี้ แหล่งข่าวเผยว่า เป็นการประชุมเพื่ออำลาตำแหน่งของนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ หลังจากที่มหาดไทยมีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่มีหนังสือจากกระทรวงมหาดไทย ด่วน ลงวันที่ 10 มกราคม 2565 เรื่องคำสั่งมหาดไทยให้นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันได้รับคำสั่ง โดยมหาดไทยได้อาศัย พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 73 ในกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่า นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล หรือรองประธานสภาเทศบาล ปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติ ในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ศรีและตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ให้เสนอความเห็นต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วยหลักฐานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาจใช้ดุลพินิจ สั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล หรือรองประธานสภาเทศบาลพ้นจาก ตำแหน่งก็ได้ คำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้เป็นที่สุด ดังนั้นทางมหาดไทยได้พิจารณาแล้วและมีคำสั่ง ให้นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พ้นจากตำแหน่งทันทีหลังจากที่ได้รับคำสั่ง และให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน และคำสั่งของรัฐมนตรีมหาดไทยให้เป็นที่สิ้นสุด

...

ในขณะที่นายโชคชัย พนมขวัญ ก็ได้ลงข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว "ช้างหลวง" ว่า กราบเรียนพี่น้องทุกท่านทราบครับ

ตามที่ผมได้ถูกเพิกถอนจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ มีสาเหตุเกิดจากเรื่องใด
1. สืบเนื่องจากกรณีที่ผมได้ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลเรื่องการลดภาษีโรงแรมฯ ซึ่งศาลอาญาฯ ได้ตัดสินแล้วว่าผมกระทำอย่างถูกต้อง ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับโรงแรมเครือญาติ แต่ลดให้กับทุกโรงแรม
2. เรื่องการชะลอการจัดเก็บค่าจอดรถ ซึ่งผมเห็นว่าไม่คุ้มค่าและเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชน จึงได้ชะลอการจัดเก็บ เพื่อทดลองว่าถ้าไม่มีพนักงานมายืนอำนวยความสะดวก จะเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือไม่ โดยไม่ได้ขออนุมัติจากสภาฯก่อน เป็นการทดลองปฏิบัติ ในฐานะนายกเทศมนตรี เมื่อเห็นว่าเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ได้นำเสนอสภาฯ แต่ทางสภาฯไม่เห็นชอบด้วยจึงได้มาเก็บใหม่

ศาลฯได้ตัดสินว่าผมทำถูกต้องแล้วเป็นการรักษาผลประโยชน์ของเทศบาล แม้กระทั่ง คสช. ที่เคยใช้ ม.44 สั่งให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้สั่งให้ผมกลับมาทำหน้าที่ต่อ แต่ กระทรวงมหาดไทย ยังเห็นว่าในเรื่องระเบียบวินัยบังไม่ถูกต้องจึงได้สั่งให้ ผมออกจากตำแหน่งไปก่อน และให้นำเรื่องไปสู่ศาลปกครอง ดังนั้นในเรื่องความผิดทางอาญาหรือการทุจริตของผมจึงไม่มี คงเหลือในเรื่องของการใช้ดุลยพินิจของผม ที่จะต้องชี้ให้ศาลเห็นว่า ผมไม่ได้ทำผิดระเบียบ และกฎหมาย โดยส่วนตัวผมยังรับใช้ พี่น้องประชาชน ตามแนวทางที่พ่อผมได้ทำไว้ มีสิ่งใดที่ผมพอจะมีประโยชน์กรุณาอย่าได้เกรงใจครับ ขอบคุณในความมีเมตตาจากทุกๆ ท่านมาโดยตลอด.