“ฟ้าทะลายโจร” พืชสมุนไพรไทยมากสรรพคุณเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายว่าสามารถนำไปใช้ต้านไวรัสโควิด-19 ได้ ทำให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าไปส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น
เช่นเดียวกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ), ร่วมกับสมาคมพัฒนาชุมชนยั่งยืน นครสวรรค์ และบวรสัมพันธ์ชุมตาบง นครสวรรค์ จัดทำโครงการสร้างอาชีพและรายได้ด้วยสมุนไพรไทยให้ชาวปากน้ำโพในพื้นที่ 3 อำเภอ คือชุมตาบง ชุมแสง และท่าตะโก
นายวิสุทธิ บุญญะโสภิต ตัวแทนสมาคมพัฒนาชุมชนยั่งยืนฯ ผู้รับผิดชอบโครงการ เผยว่า ปัจจุบันมีงานวิจัยถึงสาระสำคัญของฟ้าทะลายโจรออกมามากมาย แต่การวิจัยการปลูก การเก็บเกี่ยวเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพตามที่ต้องการยังมีน้อย
เดิมการควบคุมคุณภาพของฟ้าทะลายโจรใช้ข้อกำหนดของปริมาณแลคโตนรวมไม่น้อยกว่า 6% ประกอบด้วย andrographolide และอนุพันธุ์อื่นอย่างน้อยอีก 3 ชนิด มีงานวิจัยเกี่ยวกับสาระสำคัญที่ออกฤทธิ์ที่มากขึ้น
ทำให้ Thai Herbal Pharmacopoeia มีข้อกำหนดเพิ่มเติมให้มี andrographolide ไม่น้อยกว่า 1% ร่วมกับการกำหนด Total lactone 6%
อีกทั้งการใช้สารสกัดในยาฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาโควิดคำนวณจากปริมาณ andrographolide เป็นหลัก แต่เนื่องจากยังไม่มีการวิจัยปริมาณ andrographolide ในวัตถุดิบฟ้าทะลายโจรของประเทศไทยที่ชัดเจน จึงยังอาจเป็นปัญหาในการผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ
ดังนั้น การรวบรวมข้อมูลและการวิจัยคุณภาพวัตถุดิบเพื่อสรุปการปลูก และการเก็บเกี่ยวตามองค์ความรู้ชุมชนเปรียบเทียบคุณภาพของวัตถุดิบแต่ละแหล่งนั้นจะเป็นแนวทางให้เกษตรกรเลือกใช้วิธีปลูกและการเก็บที่มีคุณภาพ
เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรไทย เพื่อให้ได้สมุนไพรที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
...
นอกจากนี้ การพัฒนาวัตถุดิบสมุนไพรยังมีผลต่อการขับเคลื่อน Thailand 4.0 เปิดโอกาสให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่เพิ่มโอกาสและกระจายรายได้ให้กับประชาชนมากขึ้น.
ทีมข่าวภูมิภาค