หนุ่มใหญ่อ้างเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ชนรถแล้วหนี กู้ภัยพยายามขับรถไล่ตามและแจ้งตำรวจระงับเหตุ และไปลงบันทึกประจำวันที่ แต่จนถึงขณะนี้คดีความยังไม่คืบหน้า
เมื่อเวลา 23.45 น. ของวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถอีซูซุมิวเอ็กซ์ สีเทาหมายเลขทะเบียน 9 กค 2596 กทม. เฉี่ยวชนรถตุ๊กตุ๊ก ที่บริเวณถนนช้างคลาน ซึ่งทางผู้เสียหายให้รอตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ มาก่อนแต่ทางคู่กรณีที่ขับรถมิวเอ็กซ์ไม่ยอมพยายามขับรถยนต์ย้อนศรไปต่อแล้วบอกว่าไปเจอกันที่ สภ.เมือง ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ยู่ในเหตุการณ์คือ นายไพโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี พยายามขับรถไล่ตามและบีบแตรตลอดทางจนรถมิวเอ็กซ์คันดังกล่าวเฉี่ยวชนรถเก๋งหมายเลขทะเบียน งว 2905 เชียงใหม่ ของนายไพโรจน์ข้างด้านซ้าย
จากนั้นนายไพโรจน์ได้ลงจากรถไปพูดคุยกับชายคนขับรถมิวเอ็กซ์คันดังกล่าวเพื่อให้จอดรับผิดชอบกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และรอตำรวจสายตรวจ แต่เมื่อตำรวจสายตรวจมาถึงรถคันดังกล่าวก็ได้ขับหลบหนีไปอีกทำให้ กระทั่งถึงหน้าพุทธสถานเชียงใหม่ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ขับรถปาดหน้าเพื่อไม่ให้คู่กรณีนี้หนีอีก รถคันดังกล่าวจึงหยุดแต่คนขับไม่ยอมลงจากรถและชี้นายไพโรจน์กับตำรวจสายตรวจ สภ.เมือง พร้อมอ้างว่าตนเองเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ไม่จำเป็นต้องรอตำรวจ ไปเจอกันที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เลย แต่ทางสายตรวจเข้าไปพูดว่าต้องรอพนักงานสอบสวนมาที่จุดเกิดเหตุก่อน ทางชายคนดังกล่าวจึงได้ลงมาพูดคุยกระทั่งร้อยเวรมาถึงจึงได้มีการถ่ายรูปและนำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปตกลงกันที่ สภ.เมืองเชียงใหม่
ต่อมาทราบชื่อคันขับรถอีซูซุมิวเอ็กซ์คันดังกล่าวคือนายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ อายุ 59 ปี ซึ่งทางตำรวจจะขอเป่าแอลกอฮอล์ แต่ทางนายชาญศักดิ์ไม่ยอมให้เป่า
...
ส่วนนายไพโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี เจ้าของรถกู้ภัยคันดังกล่าวยินยอมให้เจ้าหน้าที่เป่าผลการทดสอบเป็น 0 ซึ่งเบื้องต้นทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ ทำให้นายไพโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี เจ้าของรถกู้ภัยจึงได้นำคลิปเหตุการณ์มาเผยแพร่เพื่อขอความเป็นธรรมและต้องการตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 จริงหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะแอบอ้าง ประกอบกับจนถึงขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้มีการติดต่อให้ทั้งสองฝ่ายมาตกลงเจรจาค่าเสียหายในการซ่อมรถ จึงเกรงว่าเรื่องนี้จะเงียบหายไป
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถาม พันตำรวจเอก ภูวนาถ ดวงดี ผู้กำกับการสถานี ตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงใหม่บนถนนที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งขณะนี้ได้มาหมดแล้ว และทางตำรวจจะได้มีการนัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.)