ชาวเมียนมาจำนวนมาก อพยพหนีตายจากการปะทะของทหารพม่ากับกองกำลังกะเหรี่ยง ข้ามมาฝั่งชายแดนที่ อ.แม่สอด ขณะที่ ไทยยิงกระสุนควันเตือน 5 ครั้ง หลังระเบิดข้ามมาลงไทย 7 ครั้ง รวมผู้อพยพกว่า 3,500 คน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. 64 สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมาที่สนธิกำลังกับกองกำลังพิทักษ์ชายแดนหรือ บีจีเอฟ ยิงปะทะกับกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยง KNLA และกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ที่บริเวณพื้นที่หมู่บ้านมอโท้ตะเล หรือบ้านแม่ทอดตะเล เขตจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับบ้านดอนชัยริมเมย หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก สถานการณ์ตลอดช่วงเย็นวานที่ผ่านมาล่วงเลยมาถึงช่วงกลางดึกของเช้าวันนี้ ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธหนักจำนวนมากและเป็นการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด จนทำให้ชาวบ้านฝั่งไทยที่หมู่บ้านดอนชัยริมเมย เขตอำเภอแม่สอด ต้องมารวมตัวกันอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของหมู่บ้านเพื่อหลบลูกกระสุนปืนหลายชนิดที่ลอยข้ามมาตกในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนภายในหมู่บ้านดอนชัย

เบื้องต้นมีลูกระเบิดปืน ค. ไม่ทราบขนาดและไม่ทราบฝ่ายหลุดข้ามมาตกในฝั่งบ้านดอนชัยริมเมย เขตอำเภอแม่สอดจำนวน 7 ลูกจนทำให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ต้องใช้เครื่องยิงลูกระเบิดยิงกระสุนควันเตือนไปถึง 5 ครั้ง ซึ่งหลังเสียงปืนการยิงปะทะยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีรายงานว่ามีชาวบ้านฝั่งเมียนมาถูกยิงและถูกสะเก็ดจากระเบิดปืน ค.81 มม. ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคนและต้องเคลื่อนย้ายชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากฝั่งประเทศเมียนมาข้ามมาขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์สนามของทางการไทยที่รอรับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ใกล้แนวปะทะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดตามหลักช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเป็นไปด้วยหลักสากลแห่งการช่วยเหลือเหยื่อสงคราม
...

ต่อมามีรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. กองกำลังทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากระดมยิงด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดหลายชนิด เสียงระเบิดดังไปทั่วพื้นที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอดอีกครั้ง และส่งผลทำให้มีชาวบ้านเมียนมา จากหมู่บ้านมินลาป่าน ฝั่งประเทศเมียนมา จำนวนมากกว่า 1,500 คน ต้องรีบอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาหลบภัยอยู่ภายในพื้นที่แรกรับคอกวัวเมยโค้ง หมู่ที่ 1 บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอดต้องจัดกำลังเข้าตรึงในพื้นที่แรกรับจุดดังกล่าวพร้อมช่วยเหลือส่งมอบอาหารปรุงสุกและน้ำดื่มสะอาดและนมเด็กเล็กตลอดจนเครื่องกันหนาวมอบให้แก่ผู้หนีภัยสงครามทุกคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงได้รับการดูแลตามหลักสากลเป็นอย่างดี


ส่วนพื้นที่ศูนย์แรกรับผู้หนีภัยสงครามชั่วคราว โรงเรียนบ้านแม่ตาวกลาง หมู่ที่ 5 ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ขณะนี้ยังมีผู้หนีภัยจากการสู้รบพักอาศัยรวมกันจำนวนกว่า 2,000 คนและลดลงหลังชาวเมียนมาหลายคนสมัครใจขอกลับบ้านในฝั่งเมียนมาเพื่อไปตรวจสอบทรัพย์สินของตนเองแต่ก็ต้องอพยพหนีข้ามกลับมาฝั่งไทยอีกครั้งหลังมีการยิงปะทะในระลอกใหม่

ขณะนี้ ทั้งสองจุดแรกรับผู้หนีภัยสงคราม คือ ที่โรงเรียนบ้านแม่ตาวกลาง และจุดแรกรับท่าคอกวัวเมยโค้ง เขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีชาวเมียนมาอพยพหนีภัยสงครามมาขออยู่ภายในสองพื้นที่แรกรับชั่วคราวแล้วจำนวน 3,500 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 และกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 เข้าดูแลควบคุมพื้นที่ทั้งจุดแรกรับผู้หนีภัยสงครามชั่วคราวทั้งสองแห่ง พร้อมเข้าตรึงกำลังในพื้นที่แนวปะทะตลอดแนวชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อย่างเข็มงวดตลอด 24 ชั่วโมง.
...