มช.จัดโครงการนำอาหารพื้นถิ่นมาประยุกต์ สร้างมาตรฐานต้อนรับนักท่องเที่ยว

มช.จัดโครงการ Gastronomy Tourism : LANNA Gastronomy “คิดถึงเชียงใหม่” นำร้านอาหาร 100 ร้าน 100 เมนู นำอาหารพื้นถิ่นหลากชนิดมาประยุกต์สร้างมาตรฐาน ต้อนรับนักท่องเที่ยว คาดเงินสะพัด 250 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดโครงการ Gastronomy Tourism : LANNA Gastronomy “คิดถึงเชียงใหม่” โดยมีเชฟจากร้านอาหารต่างๆ 12 ร้าน 13 เมนูในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ ต่างช่วยกันตกแต่งอาหารของร้านตัวเอง ที่ดัดแปลงมาจากอาหารพื้นถิ่น และเป็นจุดขายของร้านตนเองก่อนจะยกมาเสิร์ฟให้กับแขกที่มาร่วมงาน ภายในงานมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมไปถึงตัวแทนจากภาครัฐและภาคธุรกิจและเอกชนที่มาร่วมงานครั้งนี้เพื่อได้ชิมอาหารฝีมือเชฟ โดยจัดขึ้นที่เรือนอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สำหรับเมนูอาหารที่นำมาเสิร์ฟ อาทิ เมี่ยงลาบปลาเพี้ย ที่ปกติเวลาเราไปรับประทานอาหารที่ร้านทั่วไปจะใส่มาเป็นจานๆ แต่วันนี้ลาบปลาเพี้ยถูกนำมาจัดเป็นคำวางอยู่บนช้อนที่เจลลี่สีส้มเป็นเครื่องเคียงตกแต่งด้วยผักและดอกเข็มที่กินได้เมื่ออยู่บนจานแล้วดูสวยงามสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่มาร่วมงานครั้งนี้เป็นอย่างมากเมื่อถูกยกมาเสิร์ฟ ตามมาด้วย ข้าวเกรียบแรมฟืน ทรัฟเฟิลมาโย และเชียงดาเนยกระเทียมที่เชฟได้ยกมาเสิร์ฟนั้นเป็นขนมปังที่ทำจากผักเชียงดา ที่เป็นผักพื้นถิ่นมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคบำรุงสายตา รักษาไข้หวัด

นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวเกรียบปูอ่อง ซึ่งเป็นการนำปูนาแล้วนำมันปูมาผสมกับไข่แดง ก่อนจะมาย่างไฟเพื่อให้เกิดความหอมมัน คนภาคเหนือนิยมกินจิ้มกับข้าวเหนียว ที่ตกแต่งมาอย่างสวยงามแขกที่มาร่วมงานต่างอดใจไม่ไหวเมื่อเห็นอาหารก่อนจะรับประทานต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกและยังมีอีกหลากหลายเมนูทั้ง บะหมี่สามเหลือง ข้าวมันส้มตำ ไก่กงฟีฮังเลเมนูพิเศษ จากเชฟ ของหวาน lanna cotta

รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธนา พิมลศิริผล ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมอาหาร และบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการจัดโครงการ Gastronomy Tourism : LANNA Gastronomy “คิดถึงเชียงใหม่” ขึ้นมานั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของร้านอาหารให้กลับมากระเตื้องและคึกคักอีกครั้ง
หลังการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ร้านอาหารหลายแห่งได้รับผลกระทบและมีรายได้เป็นศูนย์ ซึ่งเมื่อมีการเปิดเมืองท่องเที่ยวแล้ว ทางโครงการจึงต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ได้มีองค์ร่วมรู้และมีแนวคิดในการนำอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน และมีกลิ่นไอของอาหารพื้นถิ่นมาประยุกต์และสร้างมูลค่าให้สูงขึ้น

เมื่อมีนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ และเข้าไปรับประทานอาหารนั้นจะได้เห็นที่ความสวยงาม ความแปลกใหม่และรสชาติที่อร่อย ซึ่งจะทำให้ร้านอาหารนั้นสามารถขายอาหารได้ดีมีการบอกปากต่อปาก และจะทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาเที่ยวนั้นรู้สึกประทับใจ และคิดถึงเชียงใหม่ จึงเป็นที่มาของแนวทางในพัฒนาเอกลักษณ์ของล้านนาเชียงใหม่ ให้โดดเด่น มีความน่าสนใจ และเป็นจังหวัดแรกนักท่องเที่ยวจะเดินทางมาหลังจากผ่านวิกฤติ Covid-19 การพัฒนาการท่องเที่ยว จึงไม่ใช่แค่การส่งเสริมข้อมูล การโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวและบริการเท่านั้น Lanna Gastronomy Tourism จึงต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้คุณภาพและมาตรฐานตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำ การพัฒนาศักยภาพเกษตรกร อันส่งผลต่อคุณภาพของผลผลิต กลางน้ำ การพัฒนาระบบการผลิตสินค้าและบริการด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และปลายน้ำ

การสร้างเสริมการรับรู้สินค้าและบริการให้กว้างขวาง และมีความยั่งยืน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น เชื่อใจ มีความปลอดภัยในการใช้บริการของนักท่องเที่ยวโครงการนี้มุ่งพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารล้านนารูปแบบใหม่ ให้เติบโต มีศักยภาพและพึ่งพาตนเองได้แสดงความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่สามารถเผยแพร่การดำรงชีพของชาวเชียงใหม่ให้ออกสู่สากล ผ่านตัวกลางทางด้านอาหาร สามารถยกระดับและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตลอดห่วงโซ่อาหารตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเพาะปลูกพืช การพัฒนาให้องค์ความรู้เกษตรกร และจัดการวัตถุดิบอาหารในท้องถิ่น เพื่อสร้างวัตถุดิบที่มีมาตรฐาน

วัตถุดิบบางชนิดหาได้ในภาคเหนือ เช่น ผักเชียงดา ผักหวาน เป็นต้น จุดเด่นของพืชแต่ละชนิด มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์อย่างเด่นชัด นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นด้านปศุสัตว์และการประมง เช่น การเลี้ยงไก่ประดู่หางดำ ไข่ไก่อารมณ์ดีและสุกร จึงต้องการพัฒนาให้มีความโดดเด่น มีคุณค่าทางโภชนาการ และสารออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้เกิด Molecular Agriculture ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างวัตถุดิบที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบย้อนกลับ และต่อยอดได้ในเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้สังคมเกษตรกรเกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น

จากนั้นส่งมอบวัตถุดิบที่มีคุณค่าสู่กลางน้ำ ผ่านการแปรรูปโดยใช้เทคนิคที่สร้างสรรค์ ร้อยเรียงมาเป็นเมนูอาหารแสดงตัวตนสู่ผู้บริโภค โดยนำเทคนิคด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมการปรุงอาหารล้านนา เพื่อสร้างความแปลกใหม่และเป็นที่น่าจดจำ เพื่อส่งต่อวัตถุดิบที่มีคุณภาพไปยังผู้บริโภคเป็น New LANNA Food การสร้างเมนูอาหารล้านนาใหม่ๆ ผ่านร้านอาหาร ชื่อดัง Street Food ที่มียอดติดตามสูง และเชฟที่ผ่านการ Training โดยใช้หลัก Michelin Star และข้อกำหนดสุขาภิบาลอาหารปลอดภัย เชื่อมสู่การสร้าง Story Telling กับแหล่งท่องเที่ยว และการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการ รับรู้ในวงกว้าง โดยผ่านการทำ Digital Marketing, Wonder Food Festival ต่างๆ

ถือเป็นโอกาสดีที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตตลอดห่วงโซ่ของ Gastronomy และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน อาหารล้านนาไทยรูปแบบใหม่ให้ เป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Destination of Gastronomy Tourism เกิดเป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวในรูปแบบอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวในพื้นที่รวมถึง นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความสนใจเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรม เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและอาหารที่มีความโดดเด่นเพิ่มมูลค่าซึ่งเชื่อว่าการเปิดเมืองเชียงใหม่และใกล้เทศกาลปีใหม่และฤดูกาลท่องเที่ยวนั้นอาหารที่เข้าร่วมโครงการนั้นจะสามารถไปต่อยอดรายได้ให้กับผู้ประกอบการและจะมีเงินสะพัดในธุรกิจร้านอาหารประมาณ 250 ล้านบาท.