ครบหนึ่งสัปดาห์ ยังจับไม่ได้ "เสือโคร่งวิจิตร" เจอแต่รอยเท้า ชาวบ้านผวา

หนึ่งสัปดาห์แล้ว เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ายังคงสนธิกำลังตามรอย "เสือโคร่งวิจิตร" ล่าสุดพบรอยเท้าในพื้นที่ อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ขณะที่ชาวบ้านผวา ไม่กล้าออกไปไร่ ไปนา เข้าสวน วอนเร่งผลักดันกลับป่า

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจการผลักดัน “เสือวิจิตร” เสือโคร่งจากป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งพบว่าผ่านมา 6 วัน พิกัดล่าสุดนักวิจัย โครงการ Thailand Tiger Project DNP พบสัญญาณเสือวิจิตร หนีเที่ยวไปทั่วทั้ง 3 อำเภอ อำเภอคลองลานและอำเภอปางมะค่า จนกระทั่ง บ้านใหม่วงศ์เขาทอง อ.ปางศิลาทอง ห่างจากขุนเขาน้ำอุ่นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร คาดการเดินทางของเสือวิจิตรมุ่งหน้าไปทางด้านทิศตะวันตกของป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ฝั่งจังหวัดกำแพงเพชร

โดยเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดติดตามเสือ เดินเท้าลาดตระเวนตั้งแต่เวลา 19.00 น. กระทั่งถึงรุ่งเช้าอีกวัน บริเวณถนนเส้นทางในหมู่บ้านระหว่างวัดเขาน้อยเจริญธรรม ถึงโรงเรียนบ้านปางมะนาว และตามแนวสันเขาเขาน้ำอุ่นเพื่อป้องกันไม่ให้เสือเดินกลับไปยังเขาน้ำอุ่นฝั่งตำบลหินดาต อำเภอปางศิลาทอง และวางกำลังบล็อกไม่ให้เสือกลับมาใกล้ถนนสายหลักป้องกันการถูกรถชน โดยชุดลาดตระเวนได้พูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ตลอดระยะทางกว่า 10 กม. เพื่อไม่ต้องให้กังวล และไม่ต้องเป็นห่วงในการผลักดันเสือกลับสู่ผืนป่าธรรมชาติ

ชาวบ้านในหมู่บ้านใหม่วงศ์เขาทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่อยู่ติดใกล้กับแนวสันเขาเขาน้ำอุ่น เขตอุทยานฯ แม่วงก์ หลายๆ คนบอกเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยได้เจอะ ได้เจอเสือ “วิจิตร” ตัวเป็นๆ ด้วยตาตนเอง แต่ข่าวที่ออกมาว่าเสือมาใกล้หมู่บ้านเพราะเจ้าหน้าที่จับพิกัดได้ ทำให้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านหวาดผวา กลัวกันมากต้องหยุดไม่ไปไหนช่วงตอนเย็น และไม่ออกไปขับขี่รถในช่วงเวลากลางคืน เข้าบ้านนอนอยู่ในบ้านและงดการไปไร่ ไปนา ไปสวนผลไม้ และไม่กรีดยางในสวนยางพารา ช่วงเช้าและช่วงเย็น

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จากชุดปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ 3 (ซับตามิ่ง) สายตรวจ สบอ.12 จ.นครสวรรค์ ซึ่งออกลาดตระเวนในพื้นที่หลังวัดบ้านคลองลึก แจ้งว่าหลังจากเข้าพื้นที่ในผืนป่าแนวสันเขา ประมาณ 200 เมตร ก็พบรอยตีนเสือโคร่งวิจิตร 4 รอยใน 2 จุดซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน มีอุ้งตีนเสือ 4 รอยในแนวป่า อีกรอยอยู่หลังโรงเรียนบ้านคลองลึกพัฒนา ยังคงมีรอยอยู่ที่เปียกชื้น

ซึ่งเป็นรอยตีนเสือใหม่ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือคน ถ้าประเมินตัวเสือโคร่งน่าจะมีน้ำหนักตัวประมาณ 150-200 กิโลกรัม ชุดติดตามเสือต้องหยุดติดตามระวังความปลอดภัย และแจ้งทางทีมวิจัยฯ Thailand Tiger Project DNP ทราบเพื่อติดตามสัญญาณที่ปลอกคอ แต่จากรอยตีนที่เจอสันนิษฐานว่าเสือ "วิจิตร" น่าจะเดินเข้าป่าแม่วงก์

นายชัยรัตน์ อาจมิตร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 12 บ้านมอตะแบก อำเภอคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร แจ้งผู้สื่อข่าวว่า พบรอยเท้าเสือมากกว่า 5 รอย ย่ำไปทั่วบริเวณนาข้าว โดยรอยเท้าเดินผ่านขวางทุ่งนาข้าว เข้าไปทางไร่อ้อย แต่ดูเป็นร่องรอยเก่าน่าจะหลายวันในบริเวณนั้นเรียกกันว่าทุ่งลาน ซึ่งทุ่งนาข้าวติดกับลำคลองตลอดแนวสันเขาอยู่หลังเขาน้ำอุ่นห่างกันประมาณ 3,700 เมตร มีบริเวณกว้างกว่า 10 ไร่ คาดว่าเป็นรอยเท้าของเสือโคร่งที่ทางการกำลังตามหา อาจตกใจเตลิดหนีมาเมื่อคืนวันที่เดินข้ามถนนบนเขาน้ำอุ่น พบรถบรรทุก 10 ล้อกดแตรใส่แล้วมาแอบอยู่ โดยช่วงนี้ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปเกี่ยวข้าวในนาขณะนี้ด้วย

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านในแต่ละพื้นที่ได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งให้ชาวบ้านรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเสือโคร่ง และขอความร่วมมืออย่าทำร้ายหรือหากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งกับผู้นำชุมชนทันที ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ชุดลาดตระเวนยังมีการผลัดเปลี่ยนกันเข้าในจุดที่มีรายงานตลอดทั้งวัน

ด้านนายธวัชชัย เพชระบูรณิน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยว่า จากการรายงานเสือโคร่ง “วิจิตร” จากห้วยขาแข้ง ได้ออกจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มาอยู่บริเวณเขาน้ำอุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตป่าอนุรักษ์ และมีชุมชนอาศัยอยู่รอบๆ เขา ทำให้ราษฎรเกิดความวิตกกังวลว่าเสือโคร่งอาจจะทำอันตรายชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรได้ ทางเจ้าหน้าที่นอกจากจะดำเนินการติดตามเสือโคร่งกลับคืนพื้นที่ป่าแล้ว ยังออกให้ความรู้ความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่แล้ว

ขณะเดียวกันมีการแจ้งข้อมูลจากทางเฟซบุ๊ก และโซเชียลต่างๆ ว่าเสือมาเข้าใกล้คอกปศุสัตว์ โน่นนี้ แต่เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง จึงขอว่าอย่าแจ้งข้อมูลหรือข่าวลงในโซเชียลผิดๆ เพราะจะยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้น และชาวบ้านที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงก็จะกลัวมากขึ้น

ด้าน น.ส.วีรยา โอชะกุล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) หัวหน้าชุดวางแผนและติดตาม กล่าวว่า จากการตรวจวัดพิกัดของนักวิจัยจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ พบว่า ทิศทางของเสือวิจิตรกำลังเดินเข้าใกล้ป่าอนุรักษ์ ของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์

ต่อจากนี้จะย้ายทีมเฝ้าระวังไปสร้างความเข้าใจกับชุมชน พร้อมขยับแนวใกล้พื้นที่ผืนป่ามากขึ้น เปิดทางให้เสือ “วิจิตร” กลับเข้าป่าได้โดยสะดวก ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับเส้นทางที่เสือจะเดินกลับพื้นที่ป่า ให้ระมัดระวังและไม่ทำสิ่งใดให้เสือตัวดังกล่าวเกิดความกังวล ป้องกันการย้อนกลับเข้าชุมชน

สำหรับ "วิจิตร" เป็นเสือวัยรุ่นต้องการหาบ้านอยู่ ยืนยันว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ถูกกดดันจากชุมชน ไม่ได้หิว และไม่ได้มีพฤติกรรมทำร้ายมนุษย์ จึงขอให้ชาวบ้านเข้าใจว่า เสือวิจิตรเดินสำรวจเพื่อหาที่อยู่ใหม่เท่านั้น ไม่ได้มุ่งทำร้ายใคร

ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น. นายธวัชชัย เพชระบูรณิน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เผยว่า ได้รับการรายงานว่า ขณะนี้ เสือโคร่ง “วิจิตร” ชุดติดตามพบรอยตีนอยู่สันเขาหลังวัดเขาเทพนิมิตร หมู่บ้านเพชรเจริญ หมู่ 3 ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่กำลังติดตามพร้อมทีมวิจัยเสือโคร่ง แบ่งกำลังเป็นสองชุด ออกติดตามรับสัญญาณเสือโคร่งวิจิตร

ในช่วงเช้าเป็นการตามรับสัญญาณพื้นที่โดยรอบเขาลูกน้อย เขตหมู่บ้านน้อยวงค์เจริญ ไม่ได้สัญญาณ แสดงว่าเสือไม่ได้อยู่ในบริเวณดังกล่าว

ช่วงบ่ายขยายการติดตามออกไปทั้งสองฝั่งของขุนเขาน้ำอุ่น เพื่อต้องการรู้ทิศทางที่เสือมุ่งหน้า รับสัญญาณไม่ได้

จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานเขาเขียวว่า มีชาวบ้านพบเห็นรอยตีนเสือ

ดังนั้นทีมวิจัยนำโดย นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าทีมวิจัยฯ เข้าตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นรอยเสือ “วิจิตร” จริงตามรับแจ้ง อยู่ห่างจากแนวขอบป่า อุทยานฯ แม่วงก์ประมาณ 500 เมตร โดยทิศทางมุ่งหน้าเข้าไปทางหมู่บ้านบ้านปางเหนือ อ.คลองลาน ต่อไปหมู่บ้านบ้านคลองปลาสร้อย อ.ปางศิลาทอง เข้าเขตป่าดงดิบอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ฝั่งกำแพงเพชร

จึงได้สั่งการให้จัดชุด เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานฯ คลองลาน และอุทยานฯ แม่วงก์ เฝ้าระวังเสือโคร่งตามถนนตำบลปางตาไว อ.ปางศิลาทอง และถนนในหมู่บ้านบ้านแม่พืช บ้านแปลงสี่ ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน พร้อมทั้งมีการตรวจรับสัญญาณวิทยุเสือโคร่งทุกๆ 1 ชม. เฝ้าระวังแนวถนนเส้นเขาเขียว-ปางตาไว ผลักดันไม่ให้เดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว

โดยเช้าวันที่ 6 ธ.ค. ชุดติดตาม อช.คลองลานและทีมวิจัยฯ จะได้ออกเดินเท้าแกะรอยพร้อมรับสัญญาณเพื่อยืนยันความชัดเจนของทิศทางและปลายทางของเสือโคร่งวิจิตร เนื่องจากวันนี้พลบค่ำก่อนจึงไม่สามารถแกะรอยจนสิ้นสุดได้

สำหรับนิสัยเรื่องการล่าเหยื่อกินนั้น เสือหนึ่งตัวสามารถกินเนื้อได้ถึง 40 กิโลกรัมในแต่ละครั้ง เสือต้องกินเก้งถึง 3 ตัวต่อสัปดาห์จึงจะพอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย ถ้ากินกวาง 1 ตัวอาจอยู่ได้ทั้งสัปดาห์ ถ้าเป็นกระทิง เสืออาจอยู่ได้โดยไม่ต้องล่าเหยื่ออีกภายใน 2 สัปดาห์ ในการล่าเหยื่อแต่ละครั้งเสือโคร่งประสบความสำเร็จเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ในขณะที่ต้องสูญเสียพลังงานไปจำนวนไม่น้อย

ดังนั้น หากมีเหยื่อขนาดเล็ก เช่น เก้ง เสือโคร่งอาจไม่ได้รับพลังงานมากพอหรือมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์พอที่จะผสมพันธุ์ ยิ่งไปกว่านั้น เสือโคร่งยังมีคู่แข่งที่คอยแย่งอาหารเช่นกัน ได้แก่ หมาใน และเสือดาว เสือดำ ซึ่งต่างก็กินเหยื่อชนิดเดียวกับที่เสือโคร่งกิน ยกเว้น กระทิง ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่สัตว์ชนิดอื่นจะกินได้ ดังนั้น ในการที่สังคมสัตว์ผู้ล่าที่ประกอบด้วย เสือโคร่ง เสือดาว เสือดำ และหมาใน จะอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีสัตว์ที่เป็นเหยื่อหลายชนิด และมีจำนวนมากเพียงพอต่อสัตว์ทั้งหมดด้วย.