ลำปางพบคลัสเตอร์ พระและสามเณร ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 8 ราย กลุ่มเสี่ยงมากกว่า 400 คน ทำให้ต้องปิดวัดใน 3 อำเภอเป็นการชั่วคราว และให้กักตัวควบคุมโรค
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ลำปาง พบการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนในกลุ่มพระสงฆ์ และสามเณร กระจายในหลายวัด ซึ่งเกิดขึ้นจากกรณีมีกลุ่มสามเณรเดินทางกลับมาจากบ้าน และไปร่วมสวดงานศพ อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนกลับมายัง จ.ลำปาง และเกิดการระบาดไปสู่พระสงฆ์ และสามเณรภายในวัด ซึ่งขณะนี้พบติดเชื้อในวงคลัสเตอร์นี้แล้ว 8 ราย
โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ออกแถลงการณ์ กรณีการระบาดเป็นกลุ่ม พบป่วยติดเชื้อรายแรก เป็นลูกศิษย์วัดบ้านม้าเหนือ ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง อายุ 20 ปี มีประวัติเดินทางกลับมาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เริ่มมีอาการไข้ ไอ คัดจมูก มีผื่น จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเกาะคา ผลเป็นบวก คือ ติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงรีบสอบสวน และคัดกรองโรคเชิงรุก ทำการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกลุ่มแรก 7 คน ผลตรวจพบติดเชื้อ 2 ราย

...
ส่วนสามเณรรายแรกที่พบว่า ติดเชื้อ อายุ 17 ปี อยู่ที่วัดหัวทุ่ง ต.แม่สัน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มีประวัติเดินทางกลับบ้าน และไปร่วมสวดงานศพที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กระทั่งวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เริ่มมีอาการตัวร้อน ปวดเมื่อยตามร่างกาย จากนั้นก็ได้เดินทางกลับมาวัดที่ จ.ลำปาง พร้อมด้วยสามเณรรูปอื่น และมาทราบในภายหลังว่า ลูกศิษย์วัดม้าเหนือ ที่ได้นั่งรถกลับ จ.ลำปาง ด้วยกัน ป่วยติดเชื้อ สามเณรทั้งหมดและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในวัด 9 คน จึงไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร - ราม พบว่าติดเชื้อ 3 ราย
เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน และคัดกรองโรคเชิงรุก ได้ออกเร่งป้องกันและควบคุมโรคในห้วงระหว่างวันที่ 17 – 19 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ในพื้นที่วัด 3 อำเภอของ จ.ลำปาง ได้แก่ อ.ห้างฉัตร อ.เกาะคา และ อ.เมือง พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 76 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในวัด จึงรีบตรวจ พบว่าติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 328 ราย ผลตรวจยังไม่พบเชื้อ จึงทำให้สะสมในวงคลัสเตอร์พระสงฆ์ - สามเณร มีผู้ติด 8 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงที่ต้องกักตัว และเฝ้าระวังอาการตนเองอย่างใกล้ชิดกว่า 400 คน ทำให้วัดหลายแห่งใน 3 อำเภอข้างต้น ต้องปิดประตูวัด บางวัดก็มีการติดป้าย ว่า ปิดชั่วคราว เพราะต้องกักตัว เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยง

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสอบสวนโรค พบว่า ปัจจัยสำคัญของการติดเชื้อ มาจากการ์ดตก เพราะเดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และเณรเกิดอาการป่วยอยู่แล้ว และยังเดินทางกลับเข้ามายัง จ.ลำปาง ซึ่งกลุ่มผู้ป่วยหลังกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ก็ไม่ระวังตัวเอง ไม่มีการเว้นระยะห่างร่วมกัน จึงทำให้เกิดการแพร่ระบาดภายในวัด