ผู้ปกครองร้องระงม สูญลูก เสียหลาน จากเหตุ 5 นร.หญิงชั้น ม.1 ชวนกันเล่นแม่น้ำปิง จมน้ำดับ 2 ราย รอด 3 ราย ชาวบ้าน กู้ภัยที่ช่วย เผยจุดดังกล่าวเป็นช่วงน้ำวน และลึกกว่า 3 เมตร
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมกับ นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง, เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.วังแขม และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และลงไปช่วยเหลือเด็กๆ กลุ่มดังกล่าวจากเหตุจมน้ำจนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. ของเมื่อวาน (13 พ.ย.) โดยเด็กผู้หญิงทั้ง 5 คนเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนชุมชนประชาสามัคคี (โรงเรียนในพื้นที่) โดยจุดที่ลงไปเล่นน้ำกันนั้นห่างจากตลิ่งหน้าวัดจันทารามประมาณ 150 เมตร ซึ่งมีจุดที่ทำการดูดทรายขึ้นมาเพื่อเป็นร่องน้ำให้น้ำไหลผ่านเพื่อประโยชน์ของเกษตรกรในพื้นที่ จุดนั้นจะมีความลึกกว่า 2-3 เมตร โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่ลงไปช่วยเหลือได้ไปชี้จุดเกิดเหตุให้ดูว่าจุดใด
นายประวิทย์ บัวบาง ชาวบ้านที่ลงไปช่วยเด็กจมน้ำ เล่าว่า เด็กๆ กลุ่มนี้มาเล่นน้ำกัน 5 คน เป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด ลงเล่นน้ำ 3 คน อีก 2 คนอยู่บนชายหาด ซึ่งเพื่อนที่เล่นน้ำอยู่ก็พากันไปเล่นช่วงท้ายที่เป็นส่วนของน้ำลึก จนทำให้เกิดการจมน้ำไป 2 คน อีก 1 คนที่เล่นด้วยกันก็ว่ายน้ำลอยไปขึ้นเกาะกลางหาดอีกฝั่ง โดยเพื่อนของเด็กๆ ได้ไปเรียกตนเองให้มาช่วยเหลือ ตนจึงเรียกชาวบ้านมาช่วยกันอีก 4-5 คน แต่เด็กทั้ง 2 ได้จมน้ำไปแล้ว พอเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.วังแขม เดินทางมาก็ได้ช่วยงมหาร่างของทั้ง 2 ขึ้นมาบนฝั่ง แต่ปรากฏว่าเสียชีวิตไปแล้ว
ด้าน นายณัฐพงศ์ มีชัย เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.วังแขม กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพจังหวัดกำแพงเพชร ว่ามีเหตุเด็กจมน้ำในพื้นที่ จึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังมาค้นหาเด็กที่จมน้ำ ซึ่งคนทีรอดชีวิตอีกคนก็หลุดไปอยู่เกาะกลางหาดอีกฝั่ง สภาพหมดแรง ตนจึงรีบช่วยเหลือเด็กคนที่รอดชีวิต นำขึ้นมาบนฝั่งและนำส่งโรงพยาบาลทันที หากไม่มีชาวบ้านในพื้นที่มาช่วยเหลือ อาจจะมีการสูญเสียมากกว่านี้แน่นอน
...
นายชัยวัฒน์ พันธ์วิทยากูล อดีดนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังแขม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก โดยร่องน้ำที่ทำการดูดทรายขึ้นมา เริ่มจากหมู่ 3 วังแขมเหนือ บริเวณท่าทรายบัวหลวง ยาวจนถึงช่วงกลางหน้าวัดจันทาราม มีความตื้นเขินมานานนับ 10 ปี ตนจึงขอสนับสนุนจากหน่วยงานสำนักงานบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2 กรมเจ้าท่านครสวรรค์ ขอสนับสนุนเครื่องจักรมาขุดลอกร่องน้ำเพื่อการเกษตรเพื่ออุปโภคและบริโภค หลังจากที่ทำการขุดมา 3-4 ปี ปริมาณน้ำก็เพิ่มมากขึ้น มีช่วงน้ำหลากบ้าง น้ำแล้งบ้าง ซึ่งจุดที่เกิดเหตุดังกล่าวมีระยะทางประมาณ 200 เมตร เป็นช่วงที่ลึกอยู่แค่ช่วงเดียวประมาณ 3 เมตร หน้าวัดจันทาราม ซึ่งก็ได้มีการประชาสัมพันธ์กับชาวบ้านให้ทราบว่าเป็นอันตราย ซึ่งคนที่อื่นอาจจะไม่รู้ว่าร่องน้ำดังกล่าวมีความลึกและลงไปเล่นจนทำให้เกิดเหตุสลด พอทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองของเด็กด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดคลองน้ำเย็นเหนือ ม.7 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของ ด.ญ.อริสรา รักนา อายุ 13 ปี (น้องเตย) โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติๆ พร้อมครอบครัวกำลังจัดเตรียมงานศพ
น.ส.สุภา พุกปาน ยายของน้องเตย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุหลานสาวของตน 2 คนได้ขอไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ตนเองได้เติมน้ำมันรถไว้ 50 บาท ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะไปเล่นน้ำจนเกืดเหตุดังกล่าว ที่ผ่านมาน้องเตยไม่ออกไปเที่ยวไหนอยู่บ้านตลอด ซึ่งปีที่ผ่านมาได้สูญเสียแม่ไปจากโรคมะเร็ง น้องเตยเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนมาก พาตนเองขับรถไปหาหมอบ้าง รับผิดชอบงานในบ้าน ดูแลน้องๆ หลานๆ ในบ้านอีก 3 คนได้เป็นอย่างดี ตนเองเลี้ยงหลานทุกคนเพียงคนเดียวด้วยเงินเบี้ยคนชรา บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเพื่อบ้านอื่นๆ ช่วยเหลือก็มี ฐานะที่บ้านยากจนมาก ซึ่งวันเกิดเหตุรู้ข่าวว่าหลานจมน้ำตาย ใจตนเองนี่แทบสลาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ห้ามว่าอย่าไปเล่นน้ำกันนะมันจะพากันไปตาย โดยก่อนหน้านี้หลานสาวได้พูดว่าจะได้นอนห้องแอร์แล้วยายจะได้สบาย ซึ่งพูดแบบนี้มาเป็นระยะเวลาเกือบเดือนแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายดังกล่าว
ด.ญ.ชลธิชา รักนา อายุ 13 ปี ญาติน้องเตย ที่รอดชีวิต กล่าวว่า เพื่อนได้มาตามที่บ้านให้ไปเที่ยวข้างนอก ซึ่งก็ได้ไปหาอะไรกินกันก่อนไปเล่นน้ำ ตนเองได้เล่นอยู่บนหาดทราย ส่วนเตยกับน้ำตาลและฝน ได้ลงไปเล่นตรงจุดที่ลึก เพียง 10 นาทีก็พากันจมน้ำไปเหมือนจุดนั้นมีดินดูดลงไป ได้ยินเสียงตะโกนเรียกขอให้ช่วย ตนทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าลงไปช่วย เพราะว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งก็มีคนมาช่วยหลังจากนั้น
...
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบพ่อแม่น้องน้ำตาล ด.ญ.จารุวรรณ ยี่เก็งเอี่ยม อายุ 12 ปี ที่เสียชีวิต โดย นางสุวรรณา และนายจุมพล ยี่เก็งเอี่ยม กล่าวว่า ครอบครัวมีลูก 4 คน น้องน้ำตาลเป็นบุตรคนที่ 3 น้องน้ำตาลบอกแม่ก่อนไปว่าจะไปทำรายงานกับเพื่อน ส่วนพ่อทำงานอยู่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้โทรมาขอพ่อว่าจะไปลอยกระทงกับเพื่อน พ่อเลยบอกว่าให้ไปขอแม่ ซึ่งในวันเกิดเหตุก็ได้บอกว่าจะไปทำรายงานกับเพื่อน มารู้อีกทีลูกก็เกิดเหตุจมน้ำเสียชีวิตไปแล้ว วันไปเรียกวิญญาณก็ได้ถามคนแถวนั้นก็บอกว่าเห็นเด็ก 5 คนเดินผ่านมา ก็เลยถามว่าจะไปไหนกัน เด็กๆ บอกว่าจะลงไปล้างมือในแม่น้ำ ซึ่งก็ได้เตือนว่าอย่าลงไปเล่นน้ำจุดนั้นนะมันลึก พอไม่ทันถึง 10 นาทีก็เกิดเหตุจมน้ำ โดยปกติลูกสาวจะไม่ค่อยออกไปไหน อยู่แต่บ้านเพราะกลัวโควิด ซึ่งก่อนหน้าลูกสาวพูดเป็นลางบอกเหตุได้ 2 วันว่า "แม่หนูจะกลับบ้านแล้วนะ หนูถึงเวลาของหนูแล้ว จะมีคนมารับไปแล้ว" โดยตนเองก็ฝันแปลกเป็นลางว่า "มีคนแก่เอาเหรียญมาให้เลือก 2 เหรียญ ว่าจะเอาเหรียญไหนไว้ ก็เลยเอาเหรียญเล็กไว้ ไม่ได้เลือกเหรียญใหญ่ ไม่คิดว่าจะต้องมาเลือกลูกคนเล็กแล้วเสียลูกคนโตไป ยอมรับว่าเสียใจมากกับการสูญเสียครั้งนี้
ด.ญ.นภาพร บุตรศรี อายุ 14 ปี (น้องฝน) ผู้รอดชีวิต กล่าวว่า เตยทักมาในเฟซว่าชวนไปทำรายงาน ซึ่งก็มารับตนเองไปในวันเกิดเหตุ แต่ก็ไปแวะเล่นน้ำกัน โดยเตยและน้ำตาลได้ดึงตนเองไปเล่นน้ำในจุดที่ลึกน้ำเเรง ตนเองถูกเพื่อนทั้ง 2 เกาะดึงเกือบจมน้ำไปด้วย สักพักก็ถูกผลักขึ้นมาบนหาดทรายอีกฝั่ง ซึ่งทั้ง 2 คนก็ได้จมน้ำหายไป ตนนอนหมดแรงอยู่บนหาด ซึ่งจุดนี้เคยมาเล่น แต่เล่นริมตลิ่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองก็เสียใจมาก ไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุแบบนี้ โดยในวันพรุ่งนี้จะไปร่วมงานศพของเพื่อนทั้งสองกับครอบครัวตนเอง.
...
