หนุ่มเมายาบ้าถือจอบบุกบ้านลุงซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษานายกเทศมนตรี แต่โดนของแข็งฟาดสวนกลางศีรษะดับคาที่ ส่วนลุงผู้ก่อเหตุ พาครอบครัวขึ้นรถกระบะหลบหนีไป
เมื่อเวลา 20.10 น. คืนวันที่ 4 กันยายน 2564 ขณะที่ พ.ต.ต.อมร ขว้างแป้น สว.สภ.พระธาตุช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำ สภ.พระธาตุช่อแฮ ได้รับแจ้งจากสายตรวจ ต.สวนเขื่อน ว่ามีเหตุคนถูกทำร้ายและถึงแก่ความตายที่หน้าบ้านเลขที่ 118 หมู่ 2 ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ทัตเทพ เลิศลักษณ์มีพันธ์ ผกก.สภ.พระธาตุช่อแฮ ทราบและรุดไปที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.ท.ธนา กาวีแดง รอง ผกก.สส.สภ.พระธาตุช่อแฮ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ พร้อมกับแจ้งแพทย์เวร รพ.แพร่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.แพร่ ร่วมชันสูตรพลิกศพ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุมี นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน พร้อมด้วยกู้ชีพเทศบาลตำบลสวนเขื่อนรักษาสถานที่เกิดเหตุ
พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายอภินันท์ คุณทะวงศ์ อายุ 32 ปี นอนตายที่หน้าบ้าน สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ ในมือขวากำจอบสามเหลี่ยม ที่บริเวณกลางศีรษะถูกตีด้วยของแข็งมีเลือดไหลออกมากองเล็กน้อย ตำรวจได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบหลักฐานที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวน นางวรรณรัตน์ มูลสิง อายุ 29 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตให้การว่า ระหว่างเกิดเหตุตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ เมื่อเธอมาถึงบ้านพบว่าสามีนอนนิ่งอยู่ โดยมีคนมุงดูอยู่ 2-3 คน แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย เธอจึงเข้าไปจับมือสามี และพบว่า นายสมาน ถาปนา อายุ 67 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงผู้ตาย และอดีตที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลแห่งหนึ่ง เดินเข้ามาชี้หน้าทุกคนว่า “ถ้าใครพูดเรื่องของฉัน ฉันจะกลับมาจัดการ” ก่อนจะพาภรรยาและลูกติด 1 คน ขึ้นรถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์ เลขทะเบียน 3949 จำหมวดอักษรไม่ได้ ขับออกจากบ้านไป ในขณะที่เธอยังประคองร่างสามีอยู่
...
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ลุงกับหลานต้องทำร้ายกันจนเสียชีวิต คาดว่าเป็นเพราะทะเลาะกัน และบ้านอยู่ในรั้วเดียวกัน ผู้ตายเพิ่งกลับมาจากบำบัดยาเสพติดจากต่างจังหวัดได้ 4 เดือน แต่เมื่อกลับมา กลายเป็นว่าเสพยาเสพติดหนักกว่าเดิม จนมีอาการทางประสาท ชอบเดินไป-มา กระทบกระทั่งกับลุงบ่อยครั้ง จนวันนี้ทะเลาะกันอีก และถือจอบ 3 เหลี่ยมเดินเข้าไปหาลุงที่บ้าน แต่ไม่ทราบว่าอีท่าไหน จนหลานถูกลุงใช้อาวุธไม่ทราบชนิดตีเข้ากลางกระหม่อมจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานด่านตรวจต่างๆ ในเมืองแพร่ให้สกัดรถต้องสงสัยคันดังกล่าว จากนั้นชุดพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ในการจะดำเนินการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.