หนุ่มใหญ่วัย 59 ชาวพิษณุโลก ขับรถเก๋งจะไปเข้าอู่ทำสี ระหว่างทางรถพุ่งชนกรวยริมถนน ก่อนเสียหลักชนเสาไฟริมทาง ร่างถูกอัดคาพวงมาลัยซี่โครงหักเสียชีวิต พบภาพจากวงจรปิดอยู่ดีๆ รถก็ตกข้างทาง คาดโรคหัวใจกำเริบทำวูบ
เวลา 09.40 น. วันที่ 10 มิ.ย. ร.ต.อ.อนุวัฒน์ วัฒนกรการุณย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ชนเสาไฟส่องสว่างริมทาง ถนนสายเลี่ยงเมืองหมายเลข 126 สี่แยกบ้านกร่างมุ่งหน้าสามแยกเอกซเรย์ ใกล้ทางเข้าประตู 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนทะเลแก้ว) หมู่ 5 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 1 ราย
ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งวอลโว่ สีทอง หมายเลขทะเบียน 6 กข 6643 กทม. ชนอัดกับเสาไฟส่องสว่างริมทาง จนกระโปรงด้านหน้าพังยุบเสียหาย ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ถูกพวงมาลัยอัดหน้าอกคาที่นั่งคนขับ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายรังสิมันต์ นพพิบูรณ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/31 ถนนเอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก สภาพศพถูกพวงมาลัยกระแทกกระดูกซี่โครงหักหลายซี่ ในรถพบยารักษาโรคหัวใจจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พบว่าสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ เป็นจังหวะที่รถเก๋งคันเกิดเหตุขับมาตามเส้นทางก่อนจะเสียหลักเฉี่ยวชนกรวยที่วางตั้งอยู่ใกล้กับถนนหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย แล้วพุ่งตรงไปข้างหน้าจนตกถนน ก่อนพุ่งชนกับเสาไฟส่องสว่างริมทางอย่างแรง ทำให้นายรังสิมันต์ถูกพวงมาลัยรถกระแทกอัดหน้าอกจนเสียชีวิตดังกล่าว
สอบสวนญาติ เบื้องต้นทราบว่า นายรังสิมันต์ ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่หลายโรครวมทั้งโรคหัวใจ ก่อนเกิดเหตุขับรถเก๋งมาตามถนนสายเลี่ยงเมืองเพื่อนำรถไปเข้าอู่ทำสี คาดว่าระหว่างทาง อาการโรคหัวใจน่าจะกำเริบขึ้น จนเกิดวูบทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ เป็นเหตุให้รถเสียหลักตกถนนชนกับเสาไฟส่องสว่างจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะสืบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียด ที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
...