ผบ.ฉก.ร.7 เผยยิงเตือนด้วยกระสุนควันตามกฎการใช้กำลัง แจ้งฝ่ายเมียนมาและกะเหรี่ยงให้ทราบว่ามีกระสุนตกฝั่งไทยหลังชายแดนสาละวินระอุ ด้านผู้ว่าฯ ให้จนท.อพยพชาวบ้านท่าตาฝั่ง 153 คนไปอยู่ที่ปลอดภัย
นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดน ไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 21 พ.ค. 64 ว่า สถานการณ์การสู้รบฝั่งเมียนมา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ปรากฏสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายกะเหรี่ยง (KNLA) บริเวณฐานดา-กวิน ฝั่งประเทศเมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ผลการสู้รบในครั้งนี้มีกระสุนไม่ทราบฝ่ายที่ข้ามมาตกยังฝั่งไทย จำนวน 3 นัด บริเวณพื้นที่ป่าทางทิศเหนือของบ้านท่าตาฝั่ง ทั้งนี้ไม่มีประชาชนและทรัพย์สินของประชาชนได้รับผลกระทบจากกระสุนดังกล่าว โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้การช่วยเหลือประชาชน ในการรวบรวมพลเรือน ตามแผนการอพยพพลเรือนในพื้นที่ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย จำนวน 153 คน

...
ด้าน พ.อ.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่7 ค่ายม่อนตะแลง แม่ฮ่องสอน เผยว่าทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ได้ทำการยิงเตือนด้วยกระสุนควันตามกฎการใช้กำลัง เพื่อเตือนให้ทั้งสองฝ่ายทราบว่ามีกระสุนตกลงมายังฝั่งประเทศไทย รวมทั้งได้ทำหนังสือประท้วงผ่านคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา (TBC) กรณีที่มีกระสุนไม่ทราบฝ่ายมาตกบริเวณพื้นที่ป่าเหนือหมู่บ้าน บ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง ขณะที่ เจ้าหน้าที่ กกล.นเรศวร หน่วย ฉก.ร.7 แม่ฮ่องสอน และหน่วย ฉก.ทพ.ที่ 36 ได้ตรึงกำลังควบคุมสถานการณ์ชายแดน ไม่ให้รุกล้ำอธิปไตย และดูแลด้านความมั่นคงเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ห้ามไม่ให้คนนอกพื้นที่เข้าไปยังชุมชน ยกเว้นหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ทั้งนี้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 พร้อมให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่มีความสมัครใจและต้องการเดินทางกลับไปยังฝั่งประเทศเมียนมา

ขณะที่ แหล่งข่าวชาวบ้าน บ้านท่าตาฝั่งรายหนึ่ง เผยว่า ได้เห็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่อยู่บริเวณฐานดา-กวิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ได้ยิงปืน ค.เข้ามาในฝั่งเขตไทย นอกจากการยิงปืน ค.แล้ว ยังตามด้วยการยิงปืนกลหนัก เข้ามาในหมู่บ้านท่าตาฝั่ง และกระสุนได้ทะลุฝาบ้านพักของชาวบ้านที่บ้านท่าตาฝั่งด้วย

ด้านความเคลื่อนไหวพื้นที่หมู่บ้านท่าตาฝั่ง ทางเจ้าหน้าที่ทหารและปกครองได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นโดยอพยพชาวบ้านไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และกางเต็นท์พร้อมสร้างที่พักชั่วคราวในป่าให้ บางครอบครัวได้ขนย้ายไปอาศัยบ้านญาติที่ในอำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย ในขณะเดียวกันบางครอบครัวที่มีคนวัยหนุ่ม ยังคงให้อยู่ที่บ้านเฝ้าบ้านเพราะเป็นห่วงบ้านเรือนทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยง อาทิ รถยนต์ จักรยานยนต์ เรือยนต์ หมู เป็ด ไก่ วัว ควาย ส่วนชาวบ้านที่อพยพออกนอกพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ บางคนมีโรคประจำตัว และยังคงหวั่นกลัวหวาดผวากับเสียงปืนกลที่ข้ามแม่น้ำสาละวิน มาตกยังฝั่งไทย.