หมอกควันแม่ฮ่องสอนเกินมาตรฐาน ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 142 มคก./ลบม. ตัวเมืองยังมีหมอกควันหนาแน่นกระทบต่อสุขภาพ ติดอันดับ 2 ของภาคเหนือรองจากเชียงราย ด้าน ภาคประชาชนเสนอ 7 ข้อ แก้ไฟป่าแบบยั่งยืน
จังหวัดแม่ฮ่องสอนถึงแม้จะอยู่ในช่วงประกาศงดเผาทุกชนิดอย่างเด็ดขาด แต่ก็พบมีไฟป่าลุกลามไหม้ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนกระจายในทุกอำเภอ ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 หลังจากที่ลดลงไปมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จนทำให้สายการบินนกแอร์ทำการบินตรงจากดอนเมืองมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รวม 2 เที่ยวบิน และตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค เป็นต้นมา ค่าฝุ่นละอองเริ่มปกคลุมเมืองแม่ฮ่องสอนเพิ่มขึ้นอีกระลอก ทำให้สายการบินนกแอร์ต้องงดทำการบิน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 64 ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้นอีกอยู่ที่ 142 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนยังถูกปกคลุมด้วยหมอกควันอย่างแน่นหนา ถึงขั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพอยู่เป็นอันดับ 2 รอง จากจังหวัดเชียงราย ขณะเดียวกัน กลุ่มสมัชชาพลเมืองแม่ฮ่องสอน และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ได้มีการเสนอต่อการจัดการปัญหาหมอกควันและไฟป่า แบบมีส่วนร่วมต่อทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยยื่นข้อเสนอ จำนวน 7 ข้อ ประกอบด้วย

...
1. การปรับทัศนคติเรื่องหมอกควันไฟป่า เอื้อโอกาสให้ทุกภาคส่วนสะท้อนความคิดและความเชื่อเกี่ยวกับไฟป่า
2. กำหนดแนวทางและมาตรการประจำปีอย่างมีกระบวนการ โดยการกระจายอำนาจให้การจัดการหมอกควันและไฟป่าโดยยึดชุมชนเป็นศูนย์กลาง
3. ควรมีกองทุนการจัดการหมอกควันและไฟป่าแก่ทุกหมู่บ้าน เพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมและการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
4. การข้อมูลข่าวสารความรู้เกี่ยวกับนโยบายไฟป่าและหมอกควันที่จำเป็นส่งถึงให้แก่ประชาชนด้วยภาษาที่เป็นชาติพันธุ์ของแต่ละชนเผ่าเพื่อให้เข้าถึงง่ายแก่การเข้าใจ
5. จัดโครงการสร้างกลไกการทำงานในพื้นที่ให้ครอบคลุมในชุมชน ตำบล และระดับจังหวัด
6. ควรมีการห้ามเผาในช่วงเวลาที่มีควรไฟสะสมมาก และการเผาไร่ในช่วงเดือนเมษายนควรกำหนดนโยบายควบคุมการเผาเป็นรายตำบล ตลอดจนการจัดระบบฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ ควรมีการออกแบบร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน
7. การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ควรพูดคุยทำความตกลงกับชนกลุ่มน้อย ไม่ใช่กับทางการเมียนมา เช่น กลุ่มกะเหรี่ยงแดง KNPP คุมพื้นที่รัฐคะยาตอนบน กลุ่มดาวแดง คุมพื้นที่รัฐคะยาตอนล่าง กลุ่มไทใหญ่ SSS คุมพื้นที่รัฐฉานตอนไต้ และกลุ่มไทใหญ่ SSA คุมพื้นที่เขตภูเขารัฐฉานตอนใต้ โดยการจัดเวทีพูดคุยกับกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยผ่านทางภาคประชาสังคม

ด้าน นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องไฟป่าและหมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ที่ผ่านมาหมอกควันไฟป่าที่ปกคลุมค่าฝุ่นละออง PM 2.5 พุ่งสูงถึง 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นเพราะการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ และมีการชิงเผาที่ไม่ดำเนินการตามหลักวิชาการ ส่วนงบประมาณที่ทุ่มลงไปกับการทำแนวกันไฟ และการออกลาดตระเวนตรวจสอบไฟป่าไม่ได้ผลเท่าที่ควร ซึ่งต่อไปจะเน้นการส่งเสริมปลูกพืชเศรษฐกิจให้แก่ประชาชน เช่น การปลูกโกโก้ หรือบุก ซึ่งนอกจากจะสามารถแก้ปัญหาไฟป่าได้แล้ว ยังทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย.