ทหาร ตำรวจ ตม. ฝ่ายปกครอง ที่แม่สาย ซ้อมแผนเตรียมรับผู้อพยพชาวพม่า หากเกิดสงครามสู้รบ เผยสายไฟเบอร์ออฟติกอินเทอร์เน็ตจากไทยไปท่าขี้เหล็กถูกตัด ขณะที่ฝ่ายต่อต้านนัดหมายทาง "อินบ็อกซ์" 20-27 มี.ค.นี้ ชุมนุมใหญ่ 

เวลา 10.30 น. วันที่ 19 มี.ค.64 พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นำกำลังทหาร ตำรวจ สภ.แม่สาย ตรวจคนเข้าเมือง ฝ่ายปกครอง ซ้อมแผนรองรับผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง จากสถานการณ์ความไม่สงบในสหภาพเมียนมา

โดยเริ่มจากสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจุดแรกรับไว้ที่ วัดถ้ำผาจม วัดเกาะทรายคำ และพื้นที่พักรอชั่วคราวจัดเตรียมไว้ ที่วัดปิยะพร โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพรหมมหาราช และหอประชุมพระเจ้าพรหมมหาราช ซึ่งจะสามารถรองรับได้ประมาณ 1,500 - 2,000 คน พร้อมมาตรการคัดกรองไวรัสโควิด-19

พ.ต.ท.คมกฤช ไชยสาร รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.แม่สาย กล่าวว่า เท่าที่ทราบขณะนี้ในเมืองท่าขี้เหล็ก สายอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ออฟติกที่ส่งจากฝั่งไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ถูกทางฝั่งพม่าตัดด้วยกรรไกรไปเมื่อ 1-2 วันก่อน คาดว่าจะทำให้ฝั่งพม่าไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้านใช้ แต่ในส่วนของสัญญาณมือถือยังคงใช้ได้จากสัญญาณที่ส่งในฝั่งไทย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมา การซักซ้อมแผนในวันนี้ เพื่อให้ทางตำรวจเข้าร่วมแผนด้วยความพร้อมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

...

ส่วนสถานการณ์ฝั่งท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังมีการนัดรวมตัวประท้วงทหารอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจาด เป็นระยะ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทหารเข้าสลายจับกุมตัวไป เพื่อรอเวลานัดหมายรวมตัวทั้งครั้งใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ แต่ยังไม่พบมีความรุนแรง ภายหลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประท้วงได้มีการสื่อสารรวมตัวกันผ่านทางเฟชบุ๊ก นัดหมายจุดรวมตัวกันที่โรงพยาบาลเก่าเมืองท่าขี้เหล็ก จากนั้นพากันเดินผ่านด่านพรมแดนสะพานที่ 2 ไปตามถนนสายกลางเมืองพร้อมกับร้องตะโกนขับไล่ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาทหารสูงสุดเมียนมา และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี ไปที่วงเวียนด่านพรมแดนสะพานที่ 1 ตรงข้ามอำเภอแม่สาย และไปสิ้นสุดที่บ้านฮ่องลึก เป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรทุกวัน จนกระทั่งทางการและทหารได้ออกมาไล่ จับแกนนำส่งไปขังที่ จ.เชียงตุง หลายราย ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายทั่วประเทศเมียนมา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางกองทัพทหารเมียนมาได้ออกมาตัดสายส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณด่านพรมแดนใต้สะพานเมียนมา-ไทย แห่งที่ 1 เมืองท่าขี้เหล็ก ที่บริษัทเอกชนได้ซื้อสัญญาณจากประเทศไทย ทำให้สัญญาณไวไฟอินเทอร์เน็ตในเมืองท่าขี้เหล็กถูกตัดขาดใช้ไม่ได้ เป็นการสกัดกั้นการติดต่อสื่อสารของกลุ่มผู้ประท้วงไม่ให้มีการสื่อสารติดต่อกันได้ จะมีเพียงพื้นที่ใกล้ชายแดนไทยที่ยังสามารถใช้สัญญาณโทรศัพท์ และสัญญาณไวไฟของไทยได้ แต่ระยะหลังไม่ค่อยเสถียรมากนัก ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงเมืองท่าขี้เหล็กได้เปลี่ยนการติดต่อสื่อสารผ่านทางช่องทางอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก เพื่อไม่ให้ทางทหารเมียนมาทราบการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประท้วง

ล่าสุด มีกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองท่าขี้เหล็ก ว่า วันที่ 20 มี.ค. จะมีการร่วมกันส่งสัญลักษณ์ประท้วงผ่านทางเฟซบุ๊กพร้อมกัน และวันที่ 27 มี.ค จะมีการรวมตัวกันครั้งใหญ่ของกลุ่มผู้ประท้วง คาดว่าจะมีคนออกมานับหมื่นคน มาแสดงการต่อต้านไม่เอารัฐประหารของ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้ประท้วงในเมืองท่าขี้เหล็กส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาที่เดินทางมาจากเมืองตอนใน มารับจ้างแรงงานรายวันในเมืองท่าขี้เหล็ก ส่วนคนในเมืองท่าขี้เหล็กไม่ออกมาแสดงตัวต่อต้านมากนัก แต่จะเป็นผู้ส่งเสบียงอาหาร น้ำ สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วง.