จนท.ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ แปลงปลูกป่าที่ห้วยตึงเฒ่า หลังมีข่าวในโซเชียลระบุว่ายืนต้นตายเพียบ ต้นไม้กว่า 80% รอดตาย และอยู่ในช่วงผลัดใบตามฤดูกาล
กลายเป็นเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์ หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง (Tee Hit) ได้โพสภาพต้นไม้หลายสิบต้นที่เคยปลูกในกิจกรรม Climate Festival @North ภายในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 63 ที่ล่าสุดอยู่ในสภาพแห้งแล้ง ไม่เติบโตงอกงามทั้งที่ผ่านมาเกือบปี
ต่อมา วันที่ 15 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบหลุมปลูกต้นไม้ในครั้งนั้นประมาณ 60 หลุมยังอยู่ที่จุดเดิม แต่ละหลุมมีต้นไม้ที่ดูแห้งเหี่ยวคล้ายกับแห้งตาย รวมทั้งหลุมปลูกต้นตะเคียนทองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มาปลูกไว้ ต่อมา นายณัฏฐนันธ์ ด่านอนุพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการป่าชุมชน และ นายศิริชัย ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ
...
นายณัฏฐนันธ์ กล่าวว่า ขอนำเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกไว้อยู่ในช่วงเวลาของการพักตัวตามฤดูการเพื่อเข้าสู่ช่วงผลัดใบตามธรรมชาติ เมื่อตรวจสอบดูแล้วพบอัตรารอดตายเกินร้อยละ 80 โดยในส่วนของต้นประดู่ ตะเคียนทอง และไม้ยืนต้นอื่นๆ ที่คณะวีไอพีได้มาปลูกไว้ 47 ต้น รอดตายทั้งหมด จากต้นไม้ที่ปลูกไว้ทั้งหมดประมาณ 60 ต้น ส่วนต้นไหนเป็นของ ฌอน บูรณะหิรัญ ในส่วนนี้ไม่ทราบว่าเป็นต้นไหน สำหรับพื้นที่ปลูกป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่ในเขตทหารที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ตลอด ส่วนเจ้าหน้าที่ของป่าไม้จะเข้ามาดูแลเป็นครั้งคราว และหลังจากนี้ก็จะเพิ่มความเข้มข้นในการดูแล จะให้เจ้าหน้าที่มารดน้ำต้นไม้ทุกวัน เพื่อให้มันผ่านฤดูแล้งนี้ไปได้
ด้าน นายศิริชัย กล่าวว่า ลักษณะต้นไม้ที่เห็นเป็นช่วงเวลาของการผลัดใบ จะเห็นว่ามีบางต้นเริ่มผลัดใบ มีใบเขียวแตกออกมาแล้ว ส่วนต้นไม้ที่มองไม่เห็นใบสีเขียว เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งก็จะแตกใบอออกมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม และจะสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ ในทางวิชาการสภาพที่เห็นแบบนี้ถือว่ารอดตาย แต่ข่าวที่ออกไปอาจเป็นเพราะบางคนยังขาดความเข้าใจในธรรมชาติของต้นไม้ โดยเฉพาะไม้ยืนต้นที่ต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างระบบรากนานถึง 3 ปี.